“คมนาคม” ปักธงลงทะเบียนใช้สิทธิ์ “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” 25 ส.ค.นี้

20 ส.ค. 2568 | 10:05 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ส.ค. 2568 | 13:17 น.

“คมนาคม” ยืนกรานเปิดลงทะเบียน “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” เริ่ม 25 ส.ค.นี้ เผยการลงทะเบียนสิทธิ์บัตร EMV-Rabbit อย่างละ 1 ใบต่อ 1 คน ยันชดเชยรายได้อุ้มเอกชนไม่พบปัญหา

KEY

POINTS

  • กระทรวงคมนาคมยืนยันเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์โครงการ “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคมนี้
  • ผู้ลงทะเบียน 1 คน (ใช้เลขบัตรประชาชน 13 หลัก) สามารถลงทะเบียนบัตร EMV (บัตรเครดิต/เดบิต) ได้ 1 ใบ และบัตร Rabbit ได้ 1 ใบ
  • ยืนยันว่าการชดเชยรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการเอกชนเพื่อสนับสนุนนโยบายนี้จะไม่มีปัญหา โดยจะใช้เงินจากกองทุนระบบตั๋วร่วม

นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคมในฐานะโฆษกกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สำหรับนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนใช้สิทธิผ่านแอปฯ "ทางรัฐ" ในวันที่ 25 สิงหาคม 2568 เวลา 00.01 น. เป็นต้นไป โดยไม่มีจำกัดสิทธิ์จำนวนผู้ลงทะเบียน และไม่มีวันปิดลงทะเบียน   เพื่อลดภาระค่าครองชีพและกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น

ทั้งนี้ผู้ลงทะเบียนการใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือ EMV Contactless (Visa/Mastercard) กับบัตร Rabbit Card ในการลงทะเบียนผ่านแอป"ทางรัฐนั้น โดยผู้ที่ลงทะเบียน 1 คน ต้องเป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย โดยจะต้องระบุเลขที่บัตรประชาชน 13 หลัก จะสามารถลงทะเบียนบัตร EMV ได้ 1 ใบ และบัตร Rabbit Card ได้ 1 ใบเท่านั้น 

ส่วนเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี ที่ต้องการลงทะเบียน เนื่องจากเข้าเงื่อนไขของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) สามารถลงทะเบียนได้ที่ได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารประจำสถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี   

“ยืนยันว่าการลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐไม่ล่มแน่นอน เพราะเป็นระบบเดียวกับการลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งต่างจากแอป แอปพลิเคชัน Amazing Thailand ของโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง” นายกฤชนนท์ กล่าว 
 

ขณะที่การใช้งานในระยะแรกจะให้บริการ 2 บัตรตามที่ได้ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ คือ บัตร Rabbit Card สามารถใช้บริการได้ 4 สาย คือ สายสีเขียว, สีทอง, เหลือง, ชมพู ขณะที่บัตร EMV Contactless ตามเงื่อนไขธนาคารที่เข้าร่วมให้บริการที่กำหนด สามารถใช้บริการได้กับ 6 สาย คือ สายสีแดง, น้ำเงิน, ม่วง, ชมพู, เหลือง, แอร์พอร์ต เรล ลิงค์ (ARL) 

ทั้งนี้นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสายนั้น ต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และยังแก้ปัญหาการจราจรติดขัดบนท้องถนน ซึ่งประชาชนในกรุงเทพฯจะหันมาใช้รถสาธารณะมากยิ่งขึ้น

นายกฤชนนท์ กล่าวต่อว่า ในปัจจุบันนี้มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าทุกสายต่อวันรวม 1.7 ล้านคน/เที่ยว ซึ่งหากเริ่มใช้จริงแล้ว คาดว่า จำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มมากกว่า 20% ซึ่งทางกระทรวงฯพร้อมที่จะจัดระบบขนส่งสาธารณะ ให้สอดคล้องด้วย เช่น การเพิ่มความถี่ของการเดินรถไฟฟ้า รวมถึงการนำรถโดยสารประจำทางที่เดินสายยาว นำมาปรับใช้ให้สั้นลงตามจุดต่างๆ ของรถไฟฟ้า เพื่อความสะดวกต่อการเดินทาง

“ย้ำว่าการใช้งาน จะเสียค่าแรกเข้าการใช้บริการสูงสุด 20 บาทตลอดสาย ทั้งนี้ผู้ใช้บริการหากทำการเปลี่ยนสายการเดินทางนอกสถานีโดยจำกัดเวลา 30 นาที ส่วนหากอยู่ในสายเดิมจะจำกัดเวลา 180 นาที แต่ถ้าเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนด จะคิดค่าแรกเข้าใหม่ทันที” นายกฤชนนท์ กล่าว    
 

อย่างไรก็ดีโครงการนี้ไม่ได้จำกัดเวลาในการลงทะเบียน ดังนั้นผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมนโยบายในครั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องรีบลงทะเบียน เพราะไม่ได้จำกัดสิทธิ และไม่ได้จำกัดจำนวนแต่อย่างใด คนไทยที่มีเลขบัตรประชาชน 13 หลัก สามารถลงทะเบียนได้ทุกคน

ด้านการเจรจาเรื่องชดเชยรายได้กับบีทีเอสนั้น ที่ผ่านมานายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้มีการหารือร่วมกันแล้ว โดยยืนยันไม่มีการแก้ไขสัญญาสัมปทาน เพราะรัฐบาลยึดหลักการช่วยเหลือประชาชนเป็นหลัก 

ทั้งนี้หากในกรณีที่มีปริมาณผู้โดยสารใช้รถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์จะมีการชดเชยรายได้ส่วนต่างเข้ากองทุนระบบตั๋วร่วมเพื่อดำเนินโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย 

สำหรับความคืบหน้าการแก้กฎหมายทั้ง 3 ฉบับ ประกอบด้วย 1.พ.ร.บ. กรมการขนส่งทางรางฯ  2.พ.ร.บ. ตั๋วร่วม และ 3.พ.ร.บ. รฟม. ล่าสุดเข้าสู่การพิจารณาในสภาฯชั้นกฎหมายวาระ 2 และ 3  โดยเมื่อผ่านกระบวนการดังกล่าวแล้วจะเข้าสู่การพิจารณาของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ต่อไป ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวจำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อทำตามกฎระเบียบต่อไป