ที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี ขับเคลื่อนแผนดึงดูดนักลงทุนในพื้นที่ 3 จังหวัด ประกอบด้วย ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา โดยสิทธิประโยชน์ต่างๆที่ให้แก่นักลงทุนจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการดึงดูดการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษในอนาคต
นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ความคืบหน้าการให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนในพื้นที่อีอีซีนั้น ที่ผ่านมามีนักลงทุนหลายรายที่เข้ามาร่วมลงทุนเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันพบว่ากระบวนการให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนมีความล่าช้า
ขณะเดียวกันในระหว่างที่รอร่างประกาศฯ การมอบสิทธิประโยชน์ให้แก่นักลงทุนในพื้นที่อีอีซีที่เสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบนั้น เบื้องต้นอีอีซีจะกลั่นกรองรายโครงการโดยใช้ร่างประกาศฯเพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้แก่นักลงทุนแต่ละรายโดยนำผลการเจรจาระหว่างอีอีซีและนักลงทุนเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เห็นชอบ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนดีขึ้น
จากเดิมที่กำหนดให้ร่างประกาศฯต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดว่าจะเริ่มกระบวนการการเจรจาร่วมกับนักลงทุนภายในเดือนนี้ “หากกระบวนการรอครม.เห็นชอบร่างประกาศฯสิทธิประโยชน์ให้แก่นักลงทุนเพียงอย่างเดียว เกรงว่านักลงทุนจะหันไปลงทุนในประเทศอื่นๆแทน เพราะการลงทุนในลักษณะนี้เชื่อว่านักลงทุนเขารอไม่ได้ โดยอีอีซีจะดึงรูปแบบร่างประกาศฯออกมาใช้เลย เพราะในท้ายที่สุดแล้วผลการเจรจาหรือสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนได้ให้สิทธิกพอ.เป็นผู้พิจารณาเห็นชอบอยู่ดี ซึ่งตามกฎหมายสามารถดำเนินได้” นายจุฬา กล่าว
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจในช่วงนี้ตึง ทำให้มีการชะลอตัวทั่วโลก แต่ในด้านการลงทุนยังมีนักลงทุนที่เห็นโอกาส ขณะนี้ยังมีความต้องการจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยอีอีซีจะให้เอกชนเสนอแผนธุรกิจโครงการ เพื่อให้อีอีซีพิจารณาด้านการลงทุน รวมถึงการมอบสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนด้วย
“ครั้งนี้อีอีซีจะใช้วิธีการเจรจากับนักลงทุน จากเดิมที่มีข้อจำกัดในการให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุน ซึ่งเราจำเป็นต้องมีของหรือมาตรการต่างๆที่จะสู้ประเทศอื่นเพื่อดึงนักลงทุนที่ดีและเก่งมาร่วมทุนกับเรา โดยเรามีการออกแบบสิทธิประโยชน์ให้แก่นักลงทุนเป็นรายโครงการได้เลย” นายจุฬา กล่าว
ทั้งนี้จากข้อมูลสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พบว่า ในปี 2568 มูลค่าการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซี มีมูลค่าการออกบัตร 211,571 ล้านบาท โดย 5 ประเทศที่ได้รับการออกบัตรส่งเสริมการลงทุนสูงที่สุด ดังนี้ 1.ประเทศจีน ลงทุนภาคอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 2.ประเทศสิงคโปร์ ลงทุนภาคอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน
3.เนเธอร์แลนด์ ลงทุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน 4.ฮ่องกง ลงทุนภาคอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน และ5.ไต้หวัน ลงทุนภาคอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมยานยนต์ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์
อย่างไรก็ดีสิทธิประโยชน์สำหรับนักลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ตามพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมาคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เห็นชอบกรอบสิทธิประโยชน์ดังกล่าวแล้ว
สำหรับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากรในพื้นที่อีอีซี เช่น 1.สิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิที่ได้จากการประกอบกิจการ 2.สิทธิในการนำผลขาดทุนประจำปีที่เกิดขึ้นในระหว่างเวลาที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลไปหักออกจากกำไรสุทธิที่เกิดขึ้นภายหลังระยะเวลาได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
3.สิทธิในการนำค่าขนส่ง ค่าไฟฟ้าและค่าประปามาหักเพิ่มเติมจากจำนวนเงินค่าใช้จ่ายเดิม สามารถหักค่าขนส่ง ค่าไฟฟ้า และค่าประปาได้ 2 เท่าของจำนวนเงินที่เสียไปเป็นค่าใช้จ่ายในการประกอบกิจการ โดยมีระยะเวลาตามที่คณะกรรมการเจรจาฯ กำหนด
4.สิทธิในการนำเงินลงทุนในการติดตั้งหรือก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกในการประกอบกิจการหักจากกำไรสุทธิ 5.สิทธิในการยกเว้นการนำเงินปันผลมาคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ 6.สิทธิในการยกเว้นค่าแห่งกู๊ดวิลล์ ค่าแห่งลิขสิทธิ์ หรือสิทธิอย่างอื่น ไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้
7.สิทธิในการได้รับยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร 8.สิทธิในการได้รับยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับของที่นำมาใช้เพื่อการวิจัยและพัฒนา 9.สิทธิในการได้รับยกเว้นอากรขาเข้า สำหรับวัตถุดิบหรือวัสดุที่จำเป็น เพื่อใช้ในการผลิตเพื่อการส่งออก 10.สิทธิในการได้รับลดหย่อนอากรขาเข้าสำหรับวัตถุดิบหรือวัสดุที่จำเป็น 11.สิทธิในการได้รับยกเว้นอากร สำหรับของที่นำเข้ามาเพื่อส่งกลับออกไป ฯลฯ
นอกจากนี้ยังมีกรอบสิทธิประโยชน์ที่ไม่ใช่ด้านภาษีอากร เช่น 1.สิทธิในการถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินภายในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ 2.สิทธิในการถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุดเพื่อประกอบกิจการหรืออยู่อาศัย โดยจำนวนของการถือกรรมสิทธิ์ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการเจรจาฯ กำหนด
3.สิทธิในการนำคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่อาศัยในราชอาณาจักรได้ตามจำนวนและระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตจากเลขาธิการ 4.สิทธิในการได้รับ EEC Work Permit โดยคนต่างด้าวที่เป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ผู้บริหาร และผู้ชำนาญการ ที่ผู้ประกอบกิจการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษนำเข้ามา สามารถทำงานได้ภายใต้ EEC Work Permit ซึ่งอนุมัติโดยเลขาธิการ
เมกะโปรเจ็กต์ หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,112 วันที่ 10 - 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568