โครงการรถไฟทางคู่สาย เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เส้นทางสายประวัติศาสตร์ของไทย หลังแช่แข็งมานานกว่า60ปี และขับเคลื่อนโครงการได้ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการปรับแนวเส้นทางใหม่ในปัจจุบัน ระยะทางรวม 323.1 กิโลเมตร มูลค่าโครงการรวม 85,345 ล้านบาท
โดยมีหมุดหมายขยายโครงข่ายการเดินทางด้วยระบบราง กระดูกสันหลังประเทศ เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันการขนส่งสินค้ากับประเทศเพื่อนบ้านรวมทั้งสนับสนุนภาคท่องเที่ยวที่ประเมินว่าจะสร้างรายได้เข้าประเทศได้อย่างมหาศาล เทียบชั้นสิบสองปันนาเมืองไทย แม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว
นายปัฐตพงษ์ บุญแก้ว วิศกรโครงการรถไฟทางคู่สาย เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ รฟท.เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ตลอดระยะเวลา2ปี ปัจจุบันการก่อสร้างมีความก้าวหน้าไปกว่า36% และเจาะอุโมงค์ พื้นที่สำคัญๆลุล่วงด้วยดี ซึ่งเร็วกว่าแผน1.5% แบ่งออกเป็น 3 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว, สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย และสัญญาที่ 3 ช่วงเชียงราย-เชียงของ
ท่ามกลางความท้าทายรอบด้านทั้งเศรษฐกิจผันผวน น้ำท่วมใหญ่ แผ่นดินไหวหลายระลอก อีกทั้งฝุ่นพิษที่กระทบการก่อสร้างโครงการ แต่กลับผ่านอุปสรรคมาได้ และสร้างอานิสงส์ เศรษฐกิจหมุนเวียนให้กับพื้นที่
ทั้งการจ้างงาน วัสดุก่อสร้าง การเปิดโอกาส นักศึกษาได้ร่วมงาน จำนวนมาก อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าโครงการจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการตามแผนต้นปี2571 ซึ่งจะช่วยให้แต่ละสถานีพัฒนาเชิงพาณิชย์
สำหรับ โครงการรถไฟทางคู่สาย เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มีวัตถุประสงค์เพื่อการขนส่งทั้งสินค้าและผู้โดยสาร โดยมีสถานีทั้งหมด 26 สถานี และมีความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เส้นทางรถไฟจะเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านผ่านเส้นทาง R3A และสามารถเชื่อมต่อไปยัง สปป.ลาว ผ่านรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว และไปยังจีนผ่าน The Pan-Asia Railway Network
โครงการรถไฟทางคู่สาย เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เป็น1 ใน 2 ส่วนต่อขยายของทางรถไฟสายเหนือ มีวัตถุประสงค์รองรับการเดินทางและขนส่งสินค้าภาคเหนือ รวมถึงรองรับศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าเชียงของที่กำลังก่อสร้างจะเชื่อมการค้าระเบียงเศรษฐกิจแนวเหนือ–ใต้จากไทยไปลาว จีน เวียดนาม และเขตเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล เดิมมีกำหนดการสร้างในปี พ.ศ. 2560 แต่เลื่อนออกไปในปี พ.ศ. 2564
ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2561 ครม. มีมติอนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเด่นชัย–เชียงราย–เชียงของ รวมระยะทาง 323 กม. วงเงินรวม 85,345 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 7 ปี กระทรวงคมนาคมเร่งให้การรถไฟแห่งประเทศไทย เริ่มเวนคืนที่ดินและเปิดการประมูลภายในปี 2564 และมีกำหนดการก่อสร้าง 5 ปี เปิดบริการในปี 2571 ดังกล่าว
ย้อนไปก่อนหน้านี้ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายชุมทางเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 326 กิโลเมตร ในอดีตรัฐบาลไทยได้ทำการศึกษาเส้นทางนี้มาตั้งแต่ปี 2503 และสำรวจพื้นที่ปี 2512 โดยกำหนดให้ใช้เส้นทางเด่นชัย – แพร่ – สอง – เชียงม่วน – ดอกคำใต้ – พะเยา – ป่าแดด – เชียงราย ระยะทางรวม 273 กิโลเมตร
ต่อมาปี 2537-2538 รฟท. ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาทำการทบทวนผลการศึกษาได้ข้อสรุปว่าเส้นทางชุมทางเด่นชัย – แพร่ – สอง – งาว (ลำปาง) – พะเยา – เชียงราย ย่นระยะทางเหลือประมาณ 246 กิโลเมตร ทำให้ในปี 2539–2541 ใช้งบประมาณราว 2.2 ล้านบาท ทาง รฟท.จึงได้ว่าจ้างเอกชนให้สำรวจออกแบบและศึกษาผลกระทบ จนมีพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินในปี 2544
กระทั่งปี 2547 รัฐบาลในขณะนั้นได้ให้ศึกษาความเหมาะสมอีกโดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้เชื่อมกับจีนตอนใต้ กระทั่งปี 2551 ยังให้ศึกษาเพื่อให้เชื่อมชายแดน จ.เชียงราย และระบบรางของจีนได้
จนถึงปี 2553–2554 จึงเริ่มศึกษารถไฟแบบทางคู่ เพื่อให้มีขนาดกว้างขึ้นเป็น 1.435 เมตร และกรณีเส้นทางใน จ.เชียงราย ให้แยกเส้นทางไปยังท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 2 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน และสะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-ลาว ที่ อ.เชียงของ อีกด้วย
ทั้งนี้ แนวเส้นทางล่าสุดที่ศึกษาจึงมีระยะทางรวมประมาณ 323.1 กิโลเมตร กำหนดให้มีทั้งหมด 26 สถานีผ่าน จ.แพร่ ลำปาง พะเยา และเชียงราย และมีการเจาะภูเขาเป็นอุโมงค์เพื่อเชื่อมเส้นทาง อ.เชียงของ