“สุริยะ” อัดงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 4.8 หมื่นล้าน ลุยประมูลถนน-ทางรถไฟ ก.ย.นี้

24 มิ.ย. 2568 | 07:30 น.
อัปเดตล่าสุด :24 มิ.ย. 2568 | 13:22 น.

“สุริยะ” เด้งรับ ครม. ดัน 4.8 หมื่นล้านบาท สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งจัดซื้อจัดจ้างภายในเดือนก.ย.นี้ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ เกิดการจ้างงาน 2.85 แสนคน

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันนี้ (24 มิ.ย.2568) ที่ประชุมคณะรัฐมตรี (ครม.) ได้อนุมัติแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบ 1.57 แสนล้านบาท วงเงินที่ผ่านการพิจารณา 115,375 ล้านบาท ในส่วนของกระทรวงคมนาคมได้รับการจัดสรรงบประมาณ 48,757 ล้านบาท จำนวน  6 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมทางหลวง (ทล.) วงเงิน 32,187 ล้านบาท กรมทางหลวงชนบท (ทช.) วงเงิน 14,725 ล้านบาท บริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) วงเงิน 14 ล้านบาท กรมท่าอากาศยาน (ทย.) วงเงิน 765 ล้านบาท องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) วงเงิน 42 ล้านบาท การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) วงเงิน 1,020 ล้านบาท  

ทั้งนี้หลังจากครม.เห็นชอบแล้วตามแผนหน่วยงานต่างๆที่ได้รับการจัดสรรจะเริ่มกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภายในเดือนก.ย.นี้ จากนั้นคาดว่าผู้รับเหมาจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการได้ภายในสิ้นปี 2568 เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์สูงสุดทุกโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงผลักดันภาพรวมเศรษฐกิจให้เติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

อย่างไรก็ดีโครงการกระทรวงคมนาคมที่ผ่านการพิจารณาจากแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จำนวน 26 โครงการ ทั้งหมด 5,105 รายการ คาดว่า จะสามารถพัฒนาถนนในภาพรวมได้ 417 กิโลเมตร ซ่อมบำรุง ปรับปรุง และยกระดับเส้นทางได้ 1,689 แห่ง อำนวยความปลอดภัยได้ 3,604 แห่ง และสามารถสร้างการจ้างงานได้ 2.85 แสนคน
 

ทั้งนี้โครงการต่างๆแบ่งออกเป็น 6 ด้าน ได้แก่ 1. ปรับปรุงและพัฒนาถนนเชื่อมเมืองรอง 2. เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางและขนส่ง 3. พัฒนาโครงข่ายส่งเสริมพื้นที่เกษตรกรรม 4. ปรับปรุงจุดพักรถบรรทุกเพื่อให้บังคับใช้ได้ตามกฎหมาย 5. แก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟและถนนเสมอระดับ 6.แก้ไขปัญหาจราจร พื้นที่คอขวด และพื้นที่ขาดความเชื่อมโยง 

นอกจากนี้โครงการที่ได้รับการอนุมัติจะครอบคลุมการแก้ไขปัญหาการจราจรที่เป็นคอขวด เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง ปรับปรุงถนนเชื่อมโยงเมืองรอง แหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น 

ส่วน ทช. เน้นการเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางและขนส่ง การปรับปรุง-พัฒนาถนนเชื่อมโยงเมืองรอง แหล่งท่องเที่ยว และพื้นที่การผลิต เป็นต้น และ ทย. เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการปรับปรุงสนามบินให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ เป็นต้น 

ขณะที่บขส. จะมุ่งเน้นดำเนินโครงการด้านความปลอดภัย ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองด้วยรถโดยสารของ บขส. และปรับปรุงสถานีขนส่งผู้โดยสาร เป็นต้น และขสมก. ดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่คอขวด เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง เป็นต้น

แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า รฟท. จะดำเนินโครงการโดยมุ่งเน้นการเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางและขนส่ง และแก้ไขปัญหาจุดตัดระหว่างทางรถไฟกับถนนเสมอระดับ เช่น งานจ้างเหมาจัดหาและติดตั้งเครื่องกั้นถนนเสมอระดับทางบริเวณจุดตัดทางลักผ่านเพื่อความปลอดภัยในการเดินขบวนรถไฟ จำนวน 25 แห่ง วงเงิน 98 ล้านบาท 

งานจ้างเหมาจัดหาและติดตั้งเครื่องกั้นถนนเสมอระดับทางบริเวณจุดตัดทางลักผ่านเพื่อความปลอดภัยในการเดินขบวนรถไฟในเส้นทางสายเหนือ จำนวน 6 แห่ง วงเงิน 23 ล้านบาท มโครงการซ่อมปรับปรุงอุปกรณ์ระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม วงเงิน 1,217 ล้านบาท ,งานศึกษาความเหมาะสมโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายแพร่-น่าน จังหวัดน่าน ระยะทาง 253 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 65 ล้านบาท ฯลฯ