นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (10 มิ.ย.) ได้มีมติอนุมัติให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ดำเนินการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการรัฐ (PPP) สำหรับโครงการให้บริการคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของผู้ประกอบการรายที่ 2 โดยการเปิดประมูลโครงการในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นการทดแทนเอกชนสัญญาเดิมที่จะครบกำหนดสัญญาภายในเดือน ต.ค.2569
ทั้งนี้ตามแผนทอท.จะเริ่มกระบวนการตั้งคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 จากนั้นจะดำเนินการจัดทำร่างประกาศเชิญชวนให้เอกชนร่วมลงทุน (ทีโออาร์) และเปิดรับฟังความคิดเห็นของเอกชนนักลงทุน (Market Sounding) ก่อนเปิดประมูล จะใช้เวลาดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 5 – 6 เดือน คาดว่าจะได้เอกชนผู้ชนะการประมูลเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ และลงนามสัญญาภายในเดือน ก.พ. - มี.ค. 2569
นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า เมื่อประมูลแล้วเสร็จเอกชนจะมีเวลาในการเตรียมพร้อมประมาณ 6 เดือน เพื่อเริ่มดำเนินการต่อจากเอกชนรายเดิม แต่หากประมูลแล้วเอกชนรายเดิมเป็นผู้ชนะ จะสามารถบริหารงานต่อได้ทันที โดย ทอท.คาดว่าสัญญาใหม่นี้ จะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการนำเทคโนโลยี ระบบ AI เข้ามาบริหารจัดการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถรองรับสินค้ามากขึ้นเป็นเท่าตัว
ส่วนสาเหตุที่ทอท.เร่งดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในโครงการนี้ เนื่องจากบริการคลังสินค้าถือเป็นส่วนสำคัญที่ต้องรองรับความต้องการในการขนส่งสินค้าที่กำลังขยายตัวอย่างมาก ในปัจจุบัน ซึ่ง ทอท.ประเมินว่ากรอบการดำเนินงานนั้นจะแล้วเสร็จทันต่อการบริหารงานในสัญญาเดิมที่กำลังจะสิ้นสุดลง
ขณะเดียวกันในปัจจุบันคลังสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีขีดความสามารถรองรับสินค้าอยู่ที่ 2.2 ล้านตันต่อปี โดยเฉพาะส่วนของผู้ประกอบการรายที่ 2 มีขีดความสามารถรองรับอยู่ที่ 5 แสนตันต่อปี
นอกจากนี้หากผู้ประกอบการรายที่ 2 นำระบบ AI เข้ามาบริหารจัดการคลังสินค้า สามารถเพิ่มขีดความสามารถเป็นเท่าตัว หรือราว 1 ล้านตันต่อปี และทำให้ขีดความสามารถคลังสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพิ่มเป็น 2.7 ล้านตัวต่อปี
อย่างไรก็ตามการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนให้บริการคลังสินค้า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของผู้ประกอบการรายที่ 2 ก่อนหน้านี้ ทอท.ศึกษารูปแบบ PPP Net Cost โดยมีมูลค่าของโครงการรวม 15,253 ล้านบาท ซึ่งจะคัดเลือกเอกชนมาร่วมลงทุนทดแทนผู้ประกอบการรายเดิม คือ บริษัท ดับบลิวเอฟเอสพีจีคาร์โก้ จำกัด ซึ่งอายุสัญญาจะสิ้นสุดในเดือน ต.ค.2569