"ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร" แม้ว่ารัฐบาลจะขอเลื่อนการพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรออกไปก่อน เป็นการประชุมสภาสมัยหน้า
แต่ทว่าประเด็น "กาสิโน" ที่จะอยู่ในสถานบันเทิงครบวงจรยังถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง เพราะนี่เป็นความพยายามในการกำหนดกรอบกฎหมายสำหรับการจัดตั้งและดำเนินการกาสิโนในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย
ฐานเศรษฐกิจ รวบรวมและประมวลข้อมูลเนื้อหาสำคัญที่เกี่ยวกับ "กาสิโน" ในร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อให้เห็นภาพรวมของกฎหมายที่กำลังจะมีการพิจารณาตามคิวต่อไป
นิยามและแนวคิดของสถานบันเทิงครบวงจร
ร่างพระราชบัญญัติได้ให้นิยามของ "ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร" ไว้อย่างชัดเจนว่าหมายถึง "การให้บริการเพื่อการท่องเที่ยว การพักผ่อนหย่อนใจ หรือการนันทนาการ ในรูปแบบของธุรกิจสถานบันเทิงตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้หลายประเภทรวมกัน ร่วมกับกาสิโน" ส่วน "กาสิโน" หมายถึง "สถานที่เฉพาะสำหรับจัดให้มีการเล่นพนัน"
การจัดตั้งและการจำกัดด้านพื้นที่
ร่างพระราชบัญญัติได้กำหนดข้อจำกัดเกี่ยวกับขนาดและสัดส่วนของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจร โดยระบุว่า
- ขนาดพื้นที่กาสิโน จะต้องมีพื้นที่ไม่เกินร้อยละ 10 ของที่ดินหรือพื้นที่ใช้สอยของอาคารอันเป็นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร แล้วแต่กรณีใดจะน้อยกว่ากัน ซึ่งข้อกำหนดนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้แน่ใจว่ากาสิโนจะไม่เป็นส่วนหลักของสถานบันเทิงครบวงจร
- จำนวนประเภทธุรกิจขั้นต่ำ สถานบันเทิงครบวงจรจะต้องประกอบด้วยธุรกิจอย่างน้อย 4 ประเภทตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติ(ห้างสรรพสินค้า/โรงแรม/สถานบริการ/สนามกีฬา/ยอร์ชและครูซซิ่งคลับ/สถานที่เล่นเกม/สระว่ายน้ำและสวนน้ำ/สวนสนุก/กิจการอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด) ร่วมกับกาสิโน
- พื้นที่ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย สถานบันเทิงครบวงจรต้องจัดให้มีพื้นที่สำหรับส่งเสริมสินค้า บริการ และศิลปวัฒนธรรมไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของพื้นที่ทั้งหมด
การบริหารจัดการและการกำกับดูแล
การกำกับดูแลสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโนจะอยู่ภายใต้การควบคุมของ "คณะกรรมการนโยบายและคณะกรรมการบริหาร" โดยคณะกรรมการนโยบายมีหน้าที่และอำนาจสำคัญหลายประการ รวมถึง "การเสนอแนะอัตราภาษีที่เกี่ยวข้องกับกาสิโนต่อคณะรัฐมนตรี" และ "การกำหนดพื้นที่ของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจร"
มาตรา 69 ของร่างพระราชบัญญัติระบุชัดเจนว่า "กาสิโนจะจัดให้มีขึ้นได้เฉพาะในสถานบันเทิงครบวงจรเท่านั้น" และยังกำหนดว่าการจัดให้มีการพนันในกาสิโนให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ โดยไม่ให้นำกฎหมายว่าด้วยการพนันมาใช้บังคับ และไม่ให้นำมาตรา 853 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับ ซึ่งหมายความว่าหนี้ที่เกิดจากการพนันในกาสิโนที่ได้รับอนุญาตจะสามารถบังคับได้ตามกฎหมาย ต่างจากหนี้พนันทั่วไป
เงื่อนไขและข้อจำกัดในการเข้าใช้บริการกาสิโน
ร่างพระราชบัญญัติได้กำหนดข้อจำกัดที่เข้มงวดเกี่ยวกับผู้ที่สามารถเข้าใช้บริการกาสิโนและกำหนดบุคคลที่ไม่สามารถเข้าเล่น ดังนี้
บุคคลต้องห้ามเข้ากาสิโน
ตามมาตรา 80 ของร่างพระราชบัญญัติ ห้ามบุคคลดังต่อไปนี้เข้าไปในสถานประกอบการกาสิโน
- ผู้มีอายุน้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์
- ผู้ซึ่งสำนักงานสั่งห้ามเข้าสถานประกอบการกาสิโน
- ผู้มีสัญชาติไทยซึ่งยังมิได้ลงทะเบียนและชำระค่าธรรมเนียม
- ผู้ที่มีลักษณะของบุคคลต้องห้าม
เงื่อนไขสำหรับคนไทยที่ต้องการเล่นพนันในกาสิโน
นอกจากข้อกำหนดในการลงทะเบียนและชำระค่าธรรมเนียมแล้ว มาตรา 81 ยังได้กำหนดเงื่อนไขพิเศษเพิ่มเติมสำหรับคนไทยที่ต้องการเล่นพนันในกาสิโนไว้อย่างเข้มงวด คือ
- ต้องมีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- ผ่านการตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการบริหารกำหนด
มาตรการควบคุมการเข้าออกและระบบการตรวจสอบ
ร่างพระราชบัญญัติได้กำหนดมาตรการควบคุมการเข้าออกกาสิโน โดยมาตรา 54 ระบุว่า "ผู้รับใบอนุญาตจะต้องจัดให้มีเขตบริเวณของสถานประกอบการกาสิโนที่ชัดเจน โดยมีการควบคุมการเข้าออก มีการรักษาความปลอดภัย และตรวจสอบผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันให้เป็นไปตามมาตรา 55"
การจัดเขตพื้นที่กาสิโนที่ชัดเจน
ตามมาตรา 72 ของร่างพระราชบัญญัติ ผู้รับใบอนุญาตจะต้องจัดเขตบริเวณของกาสิโนให้มีลักษณะเฉพาะและชัดเจน โดยมีรายละเอียดดังนี้
กรณีกาสิโนตั้งอยู่ในอาคารร่วมกับสถานประกอบธุรกิจสถานบันเทิงอื่น
- จะต้องจัดให้กาสิโนอยู่ในชั้นของอาคารแยกต่างหากจากสถานประกอบธุรกิจสถานบันเทิงอื่น
- ต้องจัดให้มีทางเข้าออกหรือระบบลิฟต์เฉพาะสำหรับผู้ประสงค์จะเข้ากาสิโน เพื่อแยกการเข้าถึงอย่างชัดเจนจากส่วนอื่นๆ ของสถานบันเทิงครบวงจร
กรณีกาสิโนตั้งอยู่ในอาคารแยกต่างหากจากสถานประกอบธุรกิจสถานบันเทิงอื่น
- ต้องมีรั้วกั้นเขตที่ชัดเจน เพื่อแบ่งแยกพื้นที่กาสิโนออกจากส่วนอื่นๆ อย่างชัดเจน
- ต้องมีทางเข้าออกเฉพาะเพื่อให้ผู้ประสงค์จะเข้ากาสิโนเข้าได้เท่านั้น ซึ่งเป็นการควบคุมการเข้าถึงอย่างเข้มงวด
ข้อห้ามในการประกอบกิจการกาสิโน
กฎหมายได้กำหนดข้อห้ามหลายประการในการประกอบกิจการกาสิโน ดังนี้
- ห้ามจัดให้มีการเล่นพนันผ่านระบบออนไลน์ ห้ามจัดให้มีการเข้าเล่นหรือเข้าพนันผ่านการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นใดกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อให้บุคคลภายนอกสถานประกอบการกาสิโนเข้าเล่นหรือเข้าพนันได้
- ห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการเชิญชวน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเกี่ยวกับกาสิโน เว้นแต่จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการบริหารประกาศกำหนด
- ห้ามการจ้างบุคคลเพื่อเพิ่มยอดการเล่นพนัน ห้ามผู้รับใบอนุญาตหรือบุคคลใดจ้างหรือให้ผลประโยชน์ตอบแทนอื่นใดแก่บุคคลอื่น เพื่อเพิ่มยอดหรือจำนวนคนเล่นพนันในกาสิโน หรือเพื่อเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้จ่ายในการเล่นพนันในกาสิโน
พฤติกรรมต้องห้ามในกาสิโน
ผู้รับใบอนุญาตและเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยมีหน้าที่ควบคุมไม่ให้ผู้เข้าใช้บริการกระทำการหรือมีพฤติกรรมต้องห้าม ซึ่งรวมถึง
- นำอาวุธเข้าไปในกาสิโน
- เล่นพนันโดยฝ่าฝืนหรือไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
- กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
- เข้าติดต่อ ชักชวน แนะนำตัว ติดตาม หรือรบเร้าบุคคลอื่น เพื่อการค้าประเวณี
- มีอาการมึนเมาจนประพฤติวุ่นวาย หรือกระทำการที่ก่อให้เกิดความไม่สงบ
บทลงโทษ
กฎหมายได้กำหนดบทลงโทษทั้งมาตรการปรับเป็นพินัยและโทษทางอาญาสำหรับการฝ่าฝืนกฎระเบียบต่างๆ ดังนี้
มาตรการปรับเป็นพินัย
- ผู้รับใบอนุญาตที่จัดให้มีการเล่นพนันโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ต้องชำระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกิน 5 ล้านบาทหรือร้อยละ 0.5 ของรายได้ของกาสิโนทั้งปี แล้วแต่จำนวนใดจะมากกว่า และต้องชำระค่าปรับเป็นพินัยอีกวันละไม่เกิน 100,000 บาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
- ผู้รับใบอนุญาตที่ปล่อยปละละเลยให้บุคคลต้องห้ามเข้าไปในกาสิโน ต้องชำระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกิน 100,000 บาท
- ผู้ที่เข้าไปในกาสิโนโดยฝ่าฝืนข้อห้าม ต้องชำระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกิน 50,000 บาท
- ผู้ที่พาบุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปในกาสิโน ต้องเป็นผู้ชำระค่าปรับเป็นพินัยแทนผู้เยาว์
โทษทางอาญา
- ผู้รับใบอนุญาตที่ไม่ควบคุมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำต้องห้ามในกาสิโน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ผู้ที่จัดให้มีการเล่นพนันผ่านระบบออนไลน์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากเป็นผู้รับใบอนุญาต ต้องรับโทษเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
- ผู้ที่กระทำการเพื่อเพิ่มยอดหรือจำนวนคนเล่นพนัน ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 200,000 บาท
การบังคับใช้หนี้พนัน
ตามร่างพระราชบัญญัตินี้ หนี้ที่เกิดจากการพนันในกาสิโนที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายนี้ถือเป็นหนี้ที่บังคับได้ตามกฎหมาย ซึ่งแตกต่างจากหนี้พนันทั่วไปที่ไม่สามารถบังคับได้ตามมาตรา 853 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ที่มาข้อมูล ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... (ร่างฯ ที่ สคก. ตรวจพิจารณาแล้ว เรื่องเสร็จที่ 261/2568)