จับตาพลังงานชงโซลาร์ฟาร์มชุมชน 1,500 เมกฯ-โซลาร์สูบน้ำเกษตรเข้ากพช.วันนี้

26 ต.ค. 2568 | 23:11 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ต.ค. 2568 | 04:07 น.

จับตากระทรวงพลังงานเตรียมนำโครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน 1,500 เมกฯ และโซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตรเข้ากพช.อนุมัติหลักเกณฑ์วันนี้

KEY

POINTS

  • กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอ 2 โครงการพลังงานแสงอาทิตย์เข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในวันนี้
  • โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชนขนาด 1,500 เมกะวัตต์ ให้เอกชนลงทุน 30,000 ล้านบาท เพื่อขายไฟฟ้าให้ชุมชนในราคาถูก
  • โครงการโซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร 1,200 ระบบ วงเงินลงทุน 12,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร

วันนี้ (27 ต.ค. 68) จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อพิจารณาโครงการ หรือมาตรการจากกระทรวงพลังงานตามนโยบาย Quick Big Win ก่อนที่จะนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบ หรือรับทราบ

ต่อเรื่องดังกล่าวแหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในการประชุม กพช. จะมีการพิจารณาโครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน 1,500 เมกะวัตต์ ซึ่งจะให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสูงถึง 30,000 ล้านบาท 

สร้างงานกว่า 1,700 ตำแหน่ง และขายไฟฟ้าให้ชุมชนใกล้เคียงผ่านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ด้วยราคาส่วนลดประมาณ 80 สตางค์ต่อหน่วย อีกทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้เกือบ 1 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี

จับตาพลังงานชงโซลาร์ฟาร์มชุมชน 1,500 เมกฯ-โซลาร์สูบน้ำเกษตรเข้ากพช.วันนี้

และโครงการโซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร เพื่อช่วยให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เตรียมดำเนินการทั้งหมด 1,200 ระบบ ใช้เม็ดเงินลงทุนกว่า 12,000 ล้านบาท ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 5,800 บาทต่อไร่ต่อปี

 

ส่วนโครงการส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์บนหลังคาในบ้านอยู่อาศัยด้วยมาตรการทางภาษี โดยประชาชนสามารถนำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ไม่เกิน 2 แสนบาท คาดว่าจะเกิดเม็ดลงทุนกว่า 10,800 ล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 450 ตำแหน่ง ลดการปล่อย CO2 ได้ 280,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีนั้น ต้องรอให้กรมสรรพากรออกประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ขณะที่โครงการส่งเสริมการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับหน่วยงานของรัฐ ซึ่งคาดว่าภาครัฐจะสามารถใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่ของตนเองได้ และอัตราค่าไฟฟ้าจะลดลง จะทำให้สามารถลดภาระงบประมาณค่าสาธารณูปโภค (ค่าไฟฟ้า) ได้กว่า 9,000 ล้านบาทต่อปี น่าจะผ่านกระบวนการมาเรียบร้อยแล้วพร้อมเข้าสู่ ครม. ต่อไป