โซลาร์ฟาร์มชุมชน 1,500 เมกฯ จ่อเข้า กพช. พรุ่งนี้อนุมัติหลักเกณฑ์

26 ต.ค. 2568 | 07:33 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ต.ค. 2568 | 04:10 น.

โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน 1,500 เมกะวัตต์ จ่อเข้าที่ประชุม กพช. พรุ่งนี้ เพื่ออนุมัติหลักเกณฑ์ และเงื่อนไข ก่อนนำเสนอ ครม. 28 ต.ค. 68

KEY

POINTS

  • กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอโครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชนขนาด 1,500 เมกะวัตต์ ให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) พิจารณาอนุมัติหลักเกณฑ์ในวันพรุ่งนี้
  • โครงการจะให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนร่วมกับชุมชน โดยจะจำหน่ายไฟฟ้าให้ประชาชนในราคาที่ถูกลง และแบ่งปันผลกำไรคืนสู่ชุมชน
  • มีเป้าหมายหลักเพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าให้ประชาชน และคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 30,000 ล้านบาท

โซลาร์ฟาร์มชุมชน 1,500 เมกกะวัตต์ หนึ่งในนโยบาย Quick Big Win ของกระทรวงพลังงาน โดยมีเป้าหมายหลักในการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน และกระตุ้นเม็ดเงินลงทุนทางเศรษฐกิจ

โดยโครงการดังกล่าวถูกกำหนดเป็นวาระที่จะเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2568

อย่างไรก็ดี ก่อนที่โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน 1,500 เมกะวัตต์จะเข้า ครม. จะต้องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งจะมีการประชุมวันพรุ่งนี้ (27 ต.ค. 68) ก่อน เพื่ออนุมัติเงื่อนไขในการดำเนินการ

ก่อนหน้านี้นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่า โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชนตั้งเป้าจะดำเนินการทั้งหมด 1,500 เมกะวัตต์ ซึ่งเดิมทีโครงการดังกล่าวจะให้กับรายใหญ่เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการ แต่ตอนนี้กระทรวงฯจะดึงออกมาเพื่อทำเป็นโซลาร์ฟาร์มชุนชน ซึ่งจะกระจายไปแต่ละชุมชนทั่วประเทศ

โซลาร์ฟาร์มชุมชน 1,500 เมกฯ จ่อเข้า กพช. พรุ่งนี้ ก่อนนำเสนอ ครม.

โดยโครงการดังกล่าวภาคเอกชน หรือผู้ประกอบการจะดำเนินการร่วมกับชุมชนในการติดตั้งโซลาร์ฟาร์มในพื้นที่ชุมชน ซึ่งไฟฟ้าที่ผลิตได้ก็จะจำหน่ายให้กับชุมชนในราคาที่ถูกลง ส่วนที่เหลือก็อาจจะเป็นการขายเข้าสู่ระบบ เพราะฉะนั้นเอกชนก็จะมีผลประกอบการ และกำไรส่วนหนึ่ง ซึ่งจะต้องนำมาแบ่งให้กับชุมชน

”ภาคเอกชนจะเป็นผู้ลงทุน หลังจากนั้นก็นำไฟฟ้าที่ได้มาขายให้กับประชาชนในราคาถูก และขายเข้าสู่ระบบ ซึ่งก็จะทำให้เกิดรายได้ เมื่อหักค่าใช้จ่ายเหลือก็คืนให้กับชุมชน“

นายอรรถพล กล่าวอีกว่า โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมขนจะได้ผลประโยชน์ 2 อย่าง ได้แก่ ประชาชนได้รับค่าไฟที่ถูกลง และส่วนแบ่งรายได้มาดูแลชุมชน โดยแต่ละชุมชุมจะได้ไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ เพราะฉะนั้นก็จะสามารถกระจายไปได้ในชุมชนที่มีความพร้อม

”โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน เป้าหมายรวม 1,500 เมกะวัตต์ จะให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสูงถึง 30,000 ล้านบาท สร้างงานกว่า 1,700 ตำแหน่ง และขายไฟฟ้าให้ชุมชนใกล้เคียงผ่านกฟภ.ด้วยราคาส่วนลดประมาณ 80 สตางค์ต่อหน่วย อีกทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้เกือบ 1 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี“

อย่างไรก็ดี กระทรวงพลังงานยังมีอีก 3 โครงการที่จะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. วันที่ 28 ต.ค. 68 ด้วย ได้แก่

โครงการโซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร เพื่อช่วยให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เตรียมดำเนินการทั้งหมด 1,200 ระบบ ใช้เม็ดเงินลงทุนกว่า 12,000 ล้านบาท ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 5,800 บาทต่อไร่ต่อปี 

โครงการส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์บนหลังคาในบ้านอยู่อาศัยด้วยมาตรการทางภาษี โดยประชาชนสามารถนำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ไม่เกิน 2 แสนบาท คาดว่าจะเกิดเม็ดลงทุนกว่า 10,800 ล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 450 ตำแหน่ง ลดการปล่อย CO2 ได้ 280,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี 

โครงการส่งเสริมการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับหน่วยงานของรัฐ คาดว่าภาครัฐจะสามารถใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่ของตนเองได้ และอัตราค่าไฟฟ้าจะลดลง จะทำให้สามารถลดภาระงบประมาณค่าสาธารณูปโภค (ค่าไฟฟ้า) ได้กว่า 9,000 ล้านบาทต่อปี