KEY
POINTS
“อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ หลังเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 69
ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ เพื่อบริหารราชการแผ่นดิน
หลังจากนั้น อรรถพล ได้มีการประกาศนโยบายแผน “Quick Big Win” กระทรวงพลังงานใน 4 เดือน เพื่อลดค่าครองชีพให้กับประชาชน เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
ทั้งนี้ อรรถพล ถือว่ามีผลงานสุดร้อนแรงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการลดราคาน้ำมัน เพราะเพียงแค่การทำงาน 26 วันในตำแหน่ง รมว. พลังงาน ได้มีการสั่งให้ลดราคาน้ำมันแล้วสูงสุดถึง 1 บาท แบ่งเป็น
“ฐานเศรษฐกิจ” จะพาไปย้อนไทม์ไลน์ผลงานของ อรรถพล ด้านการลดราคาน้ำมัน ประกอบด้วย
วันที่ 3 ต.ค. 68 อรรถพล ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) กบน. ระบุว่า กบน. มีมติเห็นชอบปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซลลง 50 สตางค์ต่อลิตร
รวมถึงขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันปรับลดราคาเบนซินลงด้วย 50 สตางค์ต่อลิตรด้วย
ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหน้าสถานีบริการน้ำมันลดเหลือ 31.44 บาทต่อลิตร (จากเดิม 31.94 บาท/ลิตร)
และกลุ่มเบนซินทุกชนิดลดลง 50 สตางค์ต่อลิตร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค. 68
อรรถพล ระบุว่า ปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันฯ มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยด้านราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้สามารถลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของกลุ่มน้ำมันดีเซลลงได้
“กบน.เล็งเห็นถึงความสำคัญในการช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนซึ่งปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันฯ มีสถานะดีขึ้น จึงมีความเหมาะสมที่จะปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ สำหรับน้ำมันดีเซลลง พร้อมทั้งขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันในการปรับลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินลงด้วยเพื่อช่วยเหลือประชาชน สะท้อนความมุ่งมั่นของ กบน. ในการดูแลค่าครองชีพให้แก่ประชาชนตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา พร้อมกับการรักษาเสถียรภาพด้านราคาพลังงานในประเทศ”
ล่าสุดวันที่ 20 ต.ค. 68 อรรถพล ได้ดำเนินการสั่งการให้มีการประชุม กบน. เพื่อปรับลดราคาน้ำมันน้ำมันดีเซลลง 50 สตางค์ต่อลิตร และน้ำมันเบนซินลง 30 สตางค์ต่อลิตร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2568
การปรับลดราคาน้ำมันดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานตามนโยบาย Quick Big Win ที่ให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มุ่งสร้างผลลัพธ์เชิงรูปธรรมอย่างชัดเจน และรวดเร็ว เพื่อดูแลค่าครองชีพให้แก่ประชาชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เดินหน้าอย่างมั่นคง เนื่องจากพลังงานเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ส่งผลโดยตรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
รวมถึงเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์โดยตรงจากการบริหารจัดการราคาพลังงานอย่างทันท่วงที ภายใต้หลักการทำงาน เปิดเผย-โปร่งใส-ตรวจสอบได้ของ กบน. และสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.)