เจาะลึก Quick Big Win พลังงาน ปั๊มเศรษฐกิจ 7 แสนล้าน จ้างงาน 16,000 คน

08 ต.ค. 2568 | 05:43 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ต.ค. 2568 | 07:43 น.

เปิดแผน Quick Big Win กระทรวงพลังงาน คาดสร้างมูลค่าการลงทุนได้กว่า 7 แสนล้านบาท กระตุ้นให้เกิดการจ้างงาน 16,000 คน

KEY

POINTS

  • นโยบาย "Quick Big Win" ของกระทรวงพลังงาน ตั้งเป้ากระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนมูลค่ารวมกว่า 7 แสนล้านบาท และสร้างงานกว่า 16,000 ตำแหน่ง
  • ขับเคลื่อนโครงการพลังงานสะอาดหลายรูปแบบ เช่น โซลาร์ภาคประชาชน, โซลาร์ฟาร์มชุมชน, โซลาร์ลอยน้ำ และการซื้อขายไฟฟ้าสะอาดโดยตรง (Direct PPA) เพื่อรองรับภาคอุตสาหกรรม
  • มีวัตถุประสงค์เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้ประชาชน ควบคู่กับการผลักดันประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำและเป้าหมาย Net Zero 2050

Quick Big Win” กระทรวงพลังงาน มีวัตถุประสงค์คือการการสร้างรายได้ ลดรายจ่ายด้านพลังงานภาคประชาชน 

รวมถึงจะต้องที่สำคัญสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ทั้งด้านเศรษฐกิจ  การส่งเสริมการลงทุน การผลักดันสังคมคาร์บอนต่ำ และการส่งเสริมบทบาทภาคเอกชนในการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ 

ทั้งนี้ “ฐานเศรษฐกิจ” จะพาไปเจาะลึกรายละเอียดนโยบาย “Quick Big Win” กระทรวงพลังงานว่าจะดำเนินการเรื่องใดบ้าง และจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหน

เร่งโซลาร์ภาคประชาชน

ล่าสุดนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มีการแถลงนโยบายชองกระทรวงฯ โดยระบุว่า โครงการโซลาร์ภาคประชาชน เร่งขับเคลื่อน “โครงการโซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร” กว่า 1,200 ระบบ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 7 แสนไร่ทั่วประเทศ คาดว่าจะเกิดเม็ดเงินผ่านการลงทุนกว่า 12,500 ล้านบาท ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนได้ 87.5 เมกะวัตต์ และสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 0.6 ล้านตันต่อปี 

“โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน” เป้าหมายกำลังการผลิต 1,500 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนได้กว่า 30,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 1,600 ตำแหน่ง และยังสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 0.8 ล้านตันต่อปี โดยจะสามารถประกาศรับซื้อไฟฟ้าได้ภายในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ 

เจาะลึก Quick Big Win พลังงาน ปั๊มเศรษฐกิจ 7 แสนล้าน จ้างงาน 16,000 คน

ส่วนเป้าหมาย “การลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ติดตั้งโซลาร์เซลล์” คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วม 90,000 ครัวเรือน กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุน ได้กว่า 20,250 ล้านบาท ลดการใช้ไฟฟ้าได้ 585 ล้านหน่วยต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 2.8 แสนตันต่อปี นอกจากนั้น ยังมีการเร่งอนุมัติ “การผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ลอยน้ำใน 3 เขื่อนหลักของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)  ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งมีต้นทุนต่ำ กำลังการผลิตรวม 1,638 เมกะวัตต์เกิดการลงทุนกว่า 53,000 ล้านบาท และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 0.8 ล้านตันต่อปี

พลังงานภาคอุตสาหกรรม

ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบพลังงานรองรับภาคอุตสาหกรรม ได้เร่งดำเนินการ “โครงการสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสะอาดตรง” หรือ Direct PPA 2,000 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเสนอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2568 โดยจะเกิดเม็ดเงินลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 65,000 ล้านบาท ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต 

นอกจากนี้ ยังมี “การพัฒนาระบบไฟฟ้ารองรับอุตสาหกรรมเขตภาคตะวันออก หรืออีอีซี (EEC)” โดยคาดว่าจะมีความต้องการใช้ไฟฟ้ากว่า 800 เมกะวัตต์ รองรับธุรกิจ Data Center 16 ราย 

เจาะลึก Quick Big Win พลังงาน ปั๊มเศรษฐกิจ 7 แสนล้าน จ้างงาน 16,000 คน

ปูพรหมสู่  Net Zero 2050 

รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในภาคอุตสาหกรรมผ่านการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์เพื่อการอนุรักษ์ผ่านกลไกกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน

การสร้างความยั่งยืนระยะยาวรองรับ Net Zero 2050 ผ่านโครงการต่างๆ ข้างต้น รวมถึงการเร่งจัดทำแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า หรือ แผน PDP ที่จะมีการทบทวนรายละเอียดให้การผลิตไฟฟ้าตอบโจทย์กับเป้าหมาย Net Zero 2050 ผ่านการเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดในการผลิตไฟฟ้าให้มากขึ้น 

อีกทั้งยังมีการเริ่มโครงการพัฒนาการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CCS) โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มกักเก็บก๊าซคาร์บอนฯ ได้ภายในปี 2577 และระหว่างปี 2577 ถึงปี 2607 (30 ปี) จะสามารถกักเก็บก๊าซคาร์บอนฯ ได้ 6.4 ล้านตันต่อปี

“จากทุกโครงการที่นำเสนอข้างต้น เชื่อว่าจะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เกิดมูลค่าการลงทุนสูงถึง 700,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 16,000 ตำแหน่ง และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 10 ล้านตันต่อปี” 

นายอรรถพล กล่าวอีกว่า กระทรวงฯได้วางกรอบการทำงาน Quick Big Win ไว้อย่างชัดเจน เนื่องจากมีระยะเวลาในการทำงานที่ค่อนข้างจำกัด เป้าหมายความสำเร็จจึงต้องมีความชัดเจน โดยในด้านการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้ประชาชน ตนให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก โดยที่ผ่านมากระทรวงฯเพิ่งได้มีการตรึงค่าก๊าซหุงต้มและลดราคาน้ำมันไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ขณะที่ในอนาคตก็จะมีเป้าหมายในการลดค่าไฟ ซึ่งต้องหารือกับหลายหน่วยงาน ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ แผนงานที่ได้กล่าวไว้ดังกล่าว ทั้งโครงการโซลาร์รูปแบบต่างๆ จะช่วยสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ กฟผ. ก็สามารถผลิตไฟฟ้าได้ในราคาต้นทุนที่ถูกลง การส่งเสริมความแข็งแกร่งด้านการผลิตในพื้นที่เศรษฐกิจ EEC รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม