KEY
POINTS
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) 2 เรื่องสำคัญที่จะต้องมีการลงนามระหว่างรัฐมนตรีพลังงานอาเซียน 10 ประเทศในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 43 หรือ AMEM ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 - 17 ตุลาคม 2568 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย
สำหรับเรื่องแรก เป็นร่างบันทึกความเข้าใจเพิ่มเติมว่าด้วยโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน (Enhanced Memorandum of Understanding on ASEAN Power Grid) จะมีผลบังคับใช้หลังจากประเทศสมาชิกอาเซียนส่งมอบสัตยาบันเรียบร้อยแล้ว โดยสาระสำคัญ ได้แก่
นอกจากนี้ ยังมีร่างกรอบความตกลงว่าด้วยความมั่นคงทางปิโตรเลียมของอาเซียน (ASEAN Framework Agreement on Petroleum Security) ซึ่งจะร่วมกันจัดตั้งกลไกสำหรับช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่กำลังประสบปัญหาการขาดแคลนปิโตรเลียมในสภาวะวิกฤติด้านพลังงานหรือสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้วยการร่วมกันจัดหา/แบ่งปันปิโตรเลียมให้ประเทศผู้ประสบปัญหาเพื่อบรรเทาปัญหา โดยการให้ความช่วยเหลือจะเป็นไปตามความสมัครใจและความเป็นไปได้ในเชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ สมาชิกอาเซียนจะร่วมกันพัฒนาและปรับใช้มาตรการด้านพลังงานทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับภาคพลังงานในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นต้น
นายอรรถพล กล่าวอีกว่า ประเทศไทย เป็นประเทศนำเข้าพลังงานสุทธิ การสร้างความมั่นคงทางพลังงาน จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ และการที่มีความร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียน ก็เป็นหนึ่งในมาตรการที่กระทรวงพลังงานให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งจากทั้ง 2 ข้อตกลงดังกล่าว ตนจะเป็นผู้แทนจากประเทศไทยไปลงนามในการประชุม AMEM โดยถือเป็นกลไกสำคัญในการแสวงหาความร่วมมือจากประเทศสมาชิกที่มีศักยภาพในการแบ่งปันน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และการเชื่อมโยงด้านไฟฟ้า
รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการลงทุนและสร้างรายได้จากการซื้อขายไฟฟ้าข้ามพรมแดน และเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและดึงดูดนักลงทุนที่ต้องการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานสะอาดในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอีกด้วย