KEY
POINTS
นายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยกล่าวในการเสวนาหัวข้อ ”Technology Strategy for Energy Goal” ในงาน Sustainability Expo 2025 “A Call for Adaptation The Sustainability in Trade & Industry” ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ร่วมกับ Sustainability Expo 2025 (SX2025) ว่า การเปลี่ยนผ่านไปสู่การผลิตแบบคาร์บอนต่ำ (Low Carbon) ถือเป็นเรื่องยากสำหรับเกษตรกร เนื่องจากกระบวนการปลูกคาร์บอนต่ำต้องมีการเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างละเอียดและใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย
โดยเฉพาะการเก็บข้อมูลการเจริญเติบโตของปาล์มเพื่อคำนวณเป็นคาร์บอนเครดิต หากใช้วิธีวัดขนาดต้นหรือพุ่มแบบเดิม จะใช้เวลานานและมีต้นทุนสูง ซึ่งอาจทำให้เกษตรกรเลิกทำได้
ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว GGC จึงได้ดำเนินการร่วมกับไทยคมในการนำเทคโนโลยีดาวเทียมที่เรียกว่า Carbon Watch เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก ซึ่งช่วยให้เกษตรกรสามารถทำงานที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลามากได้ง่ายขึ้น รวมถึงสามารถบรรลุเป้าหมายคาร์บอนต่ำ และตอบโจทย์การตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ไปถึงแปลงปลูกตามข้อกำหนด EUDR ได้ โดยโครงการในระยะต่อไป จะมีการพัฒนาไปสู่การเก็บกักคาร์บอน (Carbon Capture) ด้วยต้นปาล์ม
นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า จากการดำเนินโครงการ GGC มีเป้าหมายคือการมุ่งเน้นให้เกษตรกรได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้นและมีต้นทุนต่ำลง โดย GGC ไม่ได้เรียกร้องผลตอบแทนใด เนื่องจากถือว่าเกษตรกรช่วย GGC ทางอ้อมในฐานะทีเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบคาร์บอนต่ำ ซี่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรในโครงการ 30,000 กว่าไร่ ได้แก่
“เกษตรกรในโครงการเรียกร้องให้ดำเนินการเรื่องคาร์บอน ให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ โมเดลต้นแบบจากปาล์มน้ำมันและอ้อย ยังสามารถขยายผลไปยังภาคการเกษตรอื่นๆ ที่เป็นจุดแข็งของประเทศได้”
อย่างไรก็ดี ความท้าทายหลักคือการขยายโมเดลให้ครอบคลุมพื้นที่ปลูกปาล์มทั้งหมด 6.4 ล้านไร่ ซึ่งต้องอาศัยการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างจริงจังใน 4 ด้าน ประกอบด้วย