ด่วน! ลดราคาน้ำมันเบนซิน-ดีเซล 50 สตางค์ มีผลพรุ่งนี้

03 ต.ค. 2568 | 05:38 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ต.ค. 2568 | 05:40 น.

กบน.มีมติลดราคาน้ำมันเบนซิน-ดีเซล 50 สตางค์ต่อลิตร ระบุให้มีผลวันที่ 4 ต.ค. 68 หลังฐานะกองทุนน้ำมันฯมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง

KEY

POINTS

  • กบน. ประกาศลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินและดีเซลทุกชนิดลง 50 สตางค์ต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2568
  • การลดราคาดีเซลมาจากการปรับลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ส่วนเบนซินเป็นการขอความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมัน
  • มาตรการนี้มีขึ้นเพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน เนื่องจากสถานะกองทุนน้ำมันฯ ดีขึ้นจากราคาน้ำมันโลกที่ลดลง

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.)  เปิดเผยว่า กบน. มีมติเห็นชอบปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซลลง 50 สตางค์ต่อลิตร 

รวมถึงขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันปรับลดราคาเบนซินลงด้วย 50 สตางค์ต่อลิตรด้วย ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหน้าสถานีบริการน้ำมันลดเหลือ 31.44 บาทต่อลิตร (จากเดิม 31.94 บาท/ลิตร) และกลุ่มเบนซินทุกชนิดลดลง 50 สตางค์ต่อลิตร โดยให้มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (4 ตุลาคม 2568)

 

ทั้งนี้ ปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันฯ มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยด้านราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้สามารถลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของกลุ่มน้ำมันดีเซลลงได้  

ด่วน! ลดราคาน้ำมันเบนซิน-ดีเซล 50 สตางค์ มีผลพรุ่งนี้

“กบน.เล็งเห็นถึงความสำคัญในการช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนซึ่งปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันฯ มีสถานะดีขึ้น จึงมีความเหมาะสมที่จะปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ สำหรับน้ำมันดีเซลลง พร้อมทั้งขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันในการปรับลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินลงด้วยเพื่อช่วยเหลือประชาชน  สะท้อนความมุ่งมั่นของ กบน. ในการดูแลค่าครองชีพให้แก่ประชาชนตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา พร้อมกับการรักษาเสถียรภาพด้านราคาพลังงานในประเทศ” 

สำหรับ ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 28 กันยายน 2568 กองทุนน้ำมันฯ ติดลบอยู่ที่ 17,838 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมันบวกอยู่ที่ 24,429 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบอยู่ที่ 42,267 ล้านบาท 

ส่วนการปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ประเภทน้ำมันดีเซลในครั้งนี้ จะทำให้รายรับน้ำมันดีเซลลดลงเหลือประมาณวันละ 30.96 ล้านบาท จากเดิมที่มีรายรับประมาณวันละ 61.06 ล้านบาท ขณะที่รายรับจากกลุ่มน้ำมันเบนซินยังคงไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ประมาณวันละ 93.80 ล้านบาทเท่าเดิม