กรณีที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ,สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทยยื่นหนังสือถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านนโยบายโครงสร้าง Pool Gas เนื่องจากมองว่าไม่เป็นธรรมกับทุกภาคส่วน
โดยการปรับโครงสร้าง Pool Gas เป็นแนวคิดของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งจะมีการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) วันที่ 6 พฤษภาคมนั้น
ล่าสุดแหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานระบุว่า วันที่ 6 พ.ค. 68 กพช.ยังมีการประชุมตามกำหนดเดิมหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยเวลานี้ประธานการประชุมยังคงเป็นนายกรัฐมนตรี
สำหรับวาระสำคัญของการประชุมคือ โครงสร้าง Pool Gas ซึ่งจะทำค่าไฟลดลง เนื่องจากเป็นการปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ เพื่อลดต้นทุนเชื้อเพลิงสำหรับการผลิตไฟฟ้าให้ก๊าซฯที่ผลิตไฟมาจากแหล่งในประเทศ
และให้ภาคอุตสาหกรรมที่มีสัดส่วนการใช้ก๊าซธรรมชาติ เพียง 15% ของทั้งประเทศรับภาระต้นทุน LNG นำเข้าทั้งหมดที่มีสัดส่วนถึง 30% ของทั้งประเทศ จากปัจจุบันเป็นโครงสร้าง Single Pool Gas ก๊าซราคาเดียวกันทุกภาคส่วน
โดยโครงสร้าง Pool Gas ภาคเอกชนในนามกกร. รวมตัวคัดค้าน เมื่อได้ศึกษาพบว่า จะส่งผลให้ต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติของภาคอุตสาหกรรมปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 60% ทำให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนการผลิตจากราคาเชื้อเพลิงสูงถึงประมาณ 30,000 ล้านบาทต่อปี ส่งผลต่อเนื่องกับการจ้างงานกว่า 1.9 ล้านคน และความสามารถในการแข่งขันลดลง
นอกจากนี้ จะทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้นจากราคาสินค้าที่จำเป็นต้องปรับราคาขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่ม และมีความเสี่ยงทำให้เกิดปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น โดยการพิจารณาวาระ Pool Gas จะต้องให้ที่ประชุมกพช.พิจารณาอีกครั้ง