จับตา ครม.ส่งท้ายปีเคาะกรอบเงินเฟ้อปี 69-เพิ่มงบเยียวยาไทย-กัมพูชารอบ 2

30 ธ.ค. 2568 | 04:19 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ธ.ค. 2568 | 04:19 น.

จับตา ครม. นัดส่งท้ายปีคาดมีการพิจารณากรอบเป้าหมายเงินเฟ้อปี 69 และเพิ่มงบเยียวยาเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชารอบ 2

KEY

POINTS

  • ครม. เตรียมพิจารณากำหนดกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อทั่วไปสำหรับปี 2569 ที่ระดับ 1-3%
  • สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอของบประมาณเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นรอบที่ 2
  • กระทรวงพาณิชย์เสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบตามแนวชายแดน

วันนี้ (30 ธ.ค. 68) มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดส่งท้ายปีเก่า 2568 ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานฯ 

โดยคาดว่าที่ประชุมจะพิจารณากรอบเป้าหมายนโยบายการเงินสำหรับปี 2569 สำหรับอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 1-3% เพื่อรักษาเสถียรภาพและสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในช่วงทยอยฟื้นตัว

ซึ่งวาระเพื่อทราบที่น่าสนใจ ประกอบด้วย

  • สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนองบเยียวยาให้ประชาชน ตำรวจ และทหาร ที่ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบตามแนวชายแดน ระหว่างไทย-กัมพูชา ในรอบที่ 2
  • สำนักงาน ก.พ.ร. รายงานผลความคืบหน้าการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ ตาม พ.ร.บ.การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2565 เพื่อยกระดับการบริการประชาชนสู่ดิจิทัล
  • กระทรวงพาณิชย์ เสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ พร้อมรายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2567 ของสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (ITD)
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานผลการประชุมรัฐภาคือนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการแปรสภาพเป็นทะเลทราย (UNCCD COP16) เพื่อขับเคลื่อนการจัดการทรัพยากรดินอย่างยั่งยืน
  • กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เสนอร่าง พ.ร.ฎ.ว่าด้วยปริญญาและครุยวิทยฐานะของสถาบันพระบรมราชชนก เพื่อรองรับการพิธีพระราชทานปริญญาบัตรในเดือน พ.ค.2569, ร่าง พ.ร.ฎ.ในลักษณะเดียวกันของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการรับปริญญาในเดือน ส.ค.2570
  • สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เสนอร่างระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการฉบับใหม่