KEY
POINTS
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงทิศทางแนวโน้มเศรษฐกิจ และภาคอุตสาหกรรมไทยปี 69 ว่า จะเป็นอีกหนึ่งปีที่ยังต้องดำเนินไปท่ามกลางความไม่แน่นอนสูง ทั้งจากปัจจัยภายนอกประเทศและข้อจำกัดเชิงโครงสร้างภายในประเทศเอง
ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมจึงยังอยู่ในภาวะประคองตัวมากกว่าการฟื้นตัวอย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งหากปล่อยให้เศรษฐกิจชะลอลงต่อเนื่องโดยไม่มีแรงพยุง ก็มีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยจะเข้าสู่ภาวะชะงักงันคล้ายกับรถติดหล่ม คือแม้จะพยายามเร่งเครื่อง แต่ไม่สามารถขยับไปข้างหน้าได้อย่างแท้จริง
โดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) มีการประเมินเศรษฐกิจไทย ปี 69 โดยคาดว่ามีแนวโน้มจะขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 1.6–2.0% ซึ่งชะลอตัวลงจากปี 68 ที่คาดว่าจะขยายตัว 2.0%
ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีและนโยบายการค้าของสหรัฐฯ การแข่งขันจากสินค้านำเข้าที่รุนแรงขึ้น รวมถึงแรงกดดันต่อภาคการผลิต การจ้างงาน และกำลังซื้อภายในประเทศ
“ภายใต้บริบทดังกล่าว การแก้ไขปัญหาในระยะสั้น โดยเฉพาะการฟื้นฟูผลกระทบจากอุทกภัย ควบคู่กับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในระยะยาว จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”
สำหรับภาคการส่งออกของไทยในปี 69 มีแนวโน้มชะลอตัวมาอยู่ที่ -1.5 ถึง -0.5% จากผลกระทบของสงครามการค้าและความไม่แน่นอนทางนโยบายของประเทศมหาอำนาจ ขณะเดียวกันความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ส่งผลต่อเศรษฐกิจชายแดนและกิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงัก ภาคอุตสาหกรรมจึงเห็นว่าการเร่งเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศคู่ค้าใหม่จะเป็นกลไกสำคัญในการขยายตลาด ลดการพึ่งพาตลาดเดิม และเสริมความสามารถในการแข่งขันในปี 69
ด้านการผลิตภาคอุตสาหกรรม ยังคงมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ได้รับแรงกดดันจากปัญหาการลักลอบขนสินค้าข้ามแดน (Transshipment) และสินค้าราคาถูกที่เข้ามาทุ่มตลาดในประเทศ ส่งผลให้หลายอุตสาหกรรมจำเป็นต้องปรับลดกำลังการผลิตหรือปรับรูปแบบธุรกิจ ขณะที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) ยังคงเผชิญปัญหาหนี้สินและสภาพคล่อง ซึ่งกระทบต่อความสามารถในการดำเนินธุรกิจและการจ้างงานในภาพรวม