นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า ธนาคารปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางการเงินให้แก่ลูกค้า จากภาวะเศรษฐกิจที่มีความเปราะบางและความเสี่ยงเพิ่มขึ้น จากความท้าทายรอบด้าน ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของภาคครัวเรือน และสภาพคล่องของภาคธุรกิจ
โดยเฉพาะครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง ผู้ประกอบธุรกิจอิสระ และผู้ประกอบการ SME สนับสนุนการประคองธุรกิจ การจ้างงาน และการดำรงชีวิตของประชาชนให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง
ทั้งยังสอดคล้องกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และช่วยเสริมประสิทธิผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
สำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ ประกอบด้วย
ขณะเดียวกันธนาคารได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยฝาก 0.05%-0.10% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราที่ปรับลดน้อยกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ครั้งนี้ เป็นแนวทางเพิ่มเติมในการดูแลและช่วยเหลือลูกค้า ควบคู่กับมาตรการทางการเงินอื่นๆ ที่ธนาคารได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติภัยพิบัติต่าง ๆ อาทิ แผ่นดินไหว น้ำท่วม
ล่าสุดมีมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและยกเว้นดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือน สำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยในเขตพื้นที่สาธารณภัยร้ายแรงอย่างยิ่ง (ระดับ 4) ในภาคใต้ รวมถึงผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา
มาตรการปรับโครงสร้างหนี้ การแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน อาทิ โครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” และเตรียมพร้อมดำเนินมาตรการยกระดับศักยภาพธุรกิจตามแนวทาง Reinvent Thailand พลวัตใหม่เพื่ออนาคตเศรษฐกิจไทย
เช่น โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) และมาตรการสนับสนุนสินเชื่อใหม่ โดยกลไกค้ำประกันสินเชื่อ SME ของ ธปท. ในระยะถัดไป เพื่อบรรเทาภาระหนี้และเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจ
ธนาคารยังคงมุ่งมั่นทำหน้าที่เป็นมากกว่าสถาบันการเงิน ยืนหยัดเดินหน้าเคียงข้างลูกค้าและประชาชนในทุกสถานการณ์ เพื่อช่วยให้ทุกภาคส่วนสามารถฟื้นตัว ปรับตัว และก้าวข้ามความท้าทายทางเศรษฐกิจไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน”