สรรพสามิตจับเรือนขนน้ำมันเถื่อน 2.2 แสนลิตร ปรับกว่า 3.2 ล้านบาท
สรรพสามิตผนึกหลายหน่วยงาน จับเรือบรรทุกน้ำมันดีเซลเถื่อน 2 ลำ พร้อมของกลางกว่า 220,000 ลิตร ปรับกว่า 3.2 ล้านบาท ตามยุทธศาสตร์ EXCISE EXerCISE
นายพรชัย ฐีระเวช อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ว่าที่ร้อยตรี ยงยุทธ ภูมิประเทศ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ภาษีสรรพสามิต มอบหมายนายสุเมธ ฤทธิ์เจริญ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม พร้อมด้วยฝ่ายป้องกันและปราบปราม 3 และศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์
ทั้งนี้ บูรณาการปฏิบัติการร่วมกับสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 2 กองทัพเรือภาคที่ 1 ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาคที่ 1 กองบังคับการตำรวจน้ำ และกรมเจ้าท่าได้ติดตามเรือต้องสงสัยที่ลักลอบขนน้ำมันเข้ามาในราชอาณาจักร จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2568 สามารถสกัดและจับกุมเรือที่กระทำความผิดได้จำนวน 2 ลำ ในบริเวณปากน้ำประแสร์ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
ต่อมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ควบคุมเรือทั้ง 2 ลำ นำมาจอดที่ท่าเรือกลางอ่าว กองเรือยุทธการ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเรือประมงดัดแปลง จำนวน 2 ลำ พบของกลางเป็นน้ำมันดีเซลที่ไม่ได้เสียภาษีสรรพสามิตบรรจุภายในเรือ จำนวนรวม 220,000 ลิตร แบ่งเป็น
- เรือลำที่ 1 บรรทุกน้ำมันดีเซล จำนวน 120,000 ลิตร
- เรือลำที่ 2 บรรทุกน้ำมันดีเซล จำนวน 100,000 ลิตร ผู้ต้องหา 2 ราย
จึงแจ้งข้อกล่าวหา “มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน” ตามพระราชบัญญัติสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มาตรา 203 (1) คิดเป็นค่าภาษี1,636,800 บาท และค่าปรับ 3,273,600 บาท จึงได้ทำการตรวจยึดและอายัดของกลางทั้งหมด ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวทิ้งท้ายว่า การปฏิบัติการครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกรมสรรพสามิตในการยกระดับประสิทธิภาพการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต ตามยุทธศาสตร์ “EXCISE EXerCISE” ที่เน้นวินัย ความเข้มแข็ง และความเป็นมืออาชีพ เพื่อสกัดกั้นการลักลอบสินค้าที่หลีกเลี่ยงภาษี ปกป้องรายได้ของรัฐ และรักษาผลประโยชน์ของชาติอย่างยั่งยืน