KEY
POINTS
ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และความยั่งยืน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในงานสัมมนา Innobic Life Science Business Excellent Move Forum ของบริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด ว่า บริษัทฯมุ่งเน้นในเรื่องของความรวดเร็วและขนาดของธุรกิจที่แข่งขันได้ โดยนำความรู้ความเชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาสู่ประเทศไทย ผ่านการลงทุนใน บริษัท โลตัส ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (Lotus Pharmaceutical Co., Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัย พัฒนา ผลิต และจำหน่ายยาของไต้หวัน ที่มีตลาดครอบคลุมในทุกภูมิภาคของโลก จากเงินลงทุนเริ่มต้น ปัจจุบันมูลค่าตลาดได้เติบโตถึง 3 เท่า สะท้อนผลตอบแทนการลงทุน (ROI) ที่ชัดเจน
และในปีนี้ Lotus ได้รุกตลาดผลิตภัณฑ์ยาเฉพาะทางในสหรัฐฯ ผ่านการเข้าซื้อหุ้นใน Alvogen US โดยใช้เงินทุนและเงินกู้ของบริษัทเอง ไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน ทำให้ขนาดของกิจการขยับเป็นบริษัทยา Branded Generics Drug 1 ใน 20 อันดับแรกของโลก โดยทำให้อินโนบิกเข้าสู่แพลตฟอร์มยาครบวงจร เนื่องจากมีพันธมิตรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแรงรองรับด้วย ขณะเดียวกันยังนำยาคุณภาพดีจากในประเทศและต่างประเทศมาช่วยเพิ่มคุณภาพในการรักษา
“ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงเทรนด์เทคโนโลยีและสุขภาพ ทำให้ต้องเร่งพัฒนาเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ด้วยการสร้างนวัตกรรมที่ทันสมัย ยาที่มีคุณภาพ ในราคาที่จับต้องได้ ทั้งจากในและต่างประเทศ เพื่อทำให้คนไทยเข้าถึงได้ โดยการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ด้าน Life Science ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต“
ดร.บุรณิน กล่าวอีกว่า เมื่อปี 63 อินโนบิกก่อตั้งขึ้นในฐานะ New S-Curve ของ ปตท. โดยเล็งเห็นว่า ธุรกิจ Life Science เป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ของโลก และ New S-curve ที่สำคัญสำหรับประเทศไทยที่จะสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี และสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ บนฐานของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาบริษัทมุ่งสร้าง Ecosystem ของชีววิทยาศาสตร์ ตั้งแต่การวิจัย พัฒนาธุรกิจ และการจัดจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ รองรับการเข้าสู่สังคมสูงวัย และสร้างความมั่นคงทางด้านสาธารณสุข
ดร.ณัฐ อธิวิทวัส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด ให้มุมมองเพิ่มเติมถึงการเร่งเครื่องปรับแบรนด์ครั้งใหญ่ ว่า อินโนบิกเริ่มดำเนินธุรกิจในปี 2020 มีทุนจดทะเบียน 13,564 ล้านบาท เป็นส่วนหนึ่งของ ปตท. องค์กรด้านพลังงานแห่งชาติ ที่ถือหุ้น 100% แบ่งเป็น 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจยา ,กลุ่มธุรกิจโภชนาการเพื่อสุขภาพ ,กลุ่มธุรกิจการลงทุน และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรม
การปรับกลยุทธ์ดังกล่าวเพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ที่วางไว้ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะเน้นธุรกิจยา (Pharmaceutical) เป็นแกนหลักในการเติบโต โดยเฉพาะกลุ่มยาสำหรับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการดำเนินชีวิต อาทิ โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน ควบคู่กับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยต้องการผลักดันให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ซึ่งตั้งเป้าเพิ่ม
การรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ให้สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพราะแบรนด์แข็งแรงขึ้นเท่ากับว่าการขยายตลาดและการเติบโตของธุรกิจในระยะถัดไปก็ทำได้รวดเร็วขึ้นด้วยเช่นกัน จึงเป็นที่มาของการปรับแบรนด์ ซึ่งเป็นการยกระดับการดำเนินงานทั้งเชิงกลยุทธ์และเชิงปฏิบัติการ เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของอินโนบิก และตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพของประชาชน ตั้งแต่การป้องกัน การรักษา ไปจนถึงการฟื้นฟู รองรับการเติบโตในระดับภูมิภาค และเปิดโอกาสร่วมทุนหรือร่วมพัฒนาธุรกิจกับพันธมิตรชั้นนำทั้งในและต่างประเทศด้วย
ดร.ณัฐ กล่าวเพิ่มอีกว่า อินโนบิกกำลังตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางความร่วมมือด้านสุขภาพสำหรับอาเซียนโดยเฉพาะ (Regional Commercial Platform) มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ครบวงจร จนถึงการนำสู่ตลาดเชิงพาณิชย์ ควบคู่กับการแสวงหาโอกาสร่วมลงทุนเพื่อเร่งการเติบโตตามเป้าหมาย โดยการร่วมมือกับพันธมิตรระดับนานาชาติ