‘กฟผ.’ อัดงบ 2.2 หมื่นล้านรุกปรับปรุงระบบส่งไฟ-รักษาเสถียรภาพโรงไฟฟ้าแม่เมาะ

05 ธ.ค. 2568 | 00:11 น.

ผู้ว่าการ กฟผ. เผยปี 69 เตรียมงบ 2.2 หมื่นล้านบาทเดิหน้าก่อสร้างปรับปรุงระบบส่งไฟ และ บำรุงรักษาเสถียรภาพโรงไฟฟ้าแม่เมาะ

KEY

POINTS

  • กฟผ. เตรียมลงทุนกว่า 2.2 หมื่นล้านบาทในปี 2569 เพื่อก่อสร้างและปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้า และบำรุงรักษาเสถียรภาพโรงไฟฟ้าแม่เมาะ
  • เร่งผลักดันโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำในเขื่อนหลัก และศึกษาการใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงร่วมกับก๊าซธรรมชาติในโรงไฟฟ้า 6 แห่ง
  • เดินหน้าศึกษาและผลักดันการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานสะอาดและตอบโจทย์นักลงทุน

นายนรินทร์ เผ่าวณิช ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงาน และแนวทางการบริหารงาน หลังเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ กฟผ.คนที่ 17 ว่า ปี 2569 มีแผนลงทุนกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย

  • โครงการก่อสร้างและปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าประมาณ 13,000 ล้านบาท 
  • งานปรับปรุงและบำรุงรักษาเสถียรภาพโรงไฟฟ้าแม่เมาะ 9,200 ล้านบาท

 

โดยจะเร่งผลักดันโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำในเขื่อนภูมิพล จ.ตาก เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี รวมกำลังการผลิต 1,638 เมกะวัตต์ 

‘กฟผ.’ อัดงบ 2.2 หมื่นล้านรุกปรับปรุงระบบส่งไฟ-รักษาเสถียรภาพโรงไฟฟ้าแม่เมาะ

นอกจากนี้ ยังศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับปรุงระบบเชื้อเพลิงผสมไฮโดรเจน ของไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมรวมทั้งสิ้น 6 โรงไฟฟ้า ตั้งเป้าหมายการนำไฮโดรเจนมาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าร่วมกับก๊าซธรรมชาติในสัดส่วน 5% ได้แก่ 

โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ โรงไฟฟ้าพระนครใต้ โรงไฟฟ้าวังน้อย โรงไฟฟ้าบางปะกง โรงไฟฟ้าน้ำพอง และโรงไฟฟ้าจะนะ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการรายงานผลการศึกษา ข้อจำกัดของโรงไฟฟ้าต่อคณะกรรมการ กฟผ. การศึกษาและพัฒนาการผลิตเชื้อเพลิงไฮโดรเจนและแอมโมเนียบนพื้นพื้นที่ศักยภาพ

ขณะเดียวกัน ยังผลักดันโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กไม่เกิน 300 เมกะวัตต์ (SMR) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ความมั่นคงของระบบไฟฟ้าพลังงานสะอาด มีต้นทุนที่แข่งขันได้สอดรับกับความต้องการของนักลงทุนโดยเฉพาะกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่มีเป้าหมาย Net Zero เร็วขึ้นเป็นปี 2593