ส่องเทรนด์อาหารสหรัฐฯ ปี 2026 ดันตลาดอาหารสุขภาพพุ่ง

สคต. ณ นครชิคาโก (สหรัฐอเมริกา) รายงานว่า OpenTable ผู้นำด้านเทคโนโลยีร้านอาหารระดับโลก และบริษัทในเครือ Booking Holdings, Inc. ได้เผยแพร่รายงานฉบับล่าสุด “2026 Dining Trends Report” เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการรับประทานอาหารของชาวอเมริกันและทิศทางอุตสาหกรรมร้านอาหารในปี 2026

รายงานระบุว่า ในปี 2025 การรับประทานอาหารนอกบ้านของชาวสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อนหน้า และคาดว่าในปี 2026 ชาวอเมริกันจะออกไปรับประทานอาหารเฉลี่ย 10 ครั้งต่อเดือน สะท้อนว่า “ร้านอาหาร” ยังเป็นศูนย์กลางกิจกรรมทางสังคม ความสัมพันธ์ และประสบการณ์ร่วมของผู้บริโภค

เทรนด์สำคัญปี 2026

1. ความคุ้มค่าแต่ต้องพิเศษ      โดย 61% มองว่าการไปร้านอาหารเป็น “โอกาสพิเศษ” และการรับประทานช่วง Happy Hour เพิ่มขึ้น 13%

2. ความฉับพลันและยืดหยุ่น การใช้ฟีเจอร์ “Notify Me” เพิ่ม 84% และเลือกร้านแบบไม่ได้วางแผนล่วงหน้า เพิ่ม 49%

3. มิลเลนเนียลคือกำลังซื้อหลักมิลเลนเนียลออกไปรับประทานอาหารมากที่สุด เฉลี่ย 14 ครั้ง/เดือน โดย 79% เลือกร้านจากความน่าสนใจบน Instagram/TikTok

4. การกินเป็นกลุ่มยังเติบโต แม้แชร์อาหารลดลง โดย 52% ต้องการสั่งจานของตนเอง และการรับประทานแบบกลุ่มเพิ่มขึ้น 11% ส่วนการจองห้องส่วนตัวผ่านแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

5. อาหารแบบ “ประสบการณ์” โตแรง โดย Experiential dining เพิ่มขึ้น 46% งานพิเศษ เช่น pop-ups, Chef’s Table เพิ่มขึ้น 34% และ 48% ตัดสินใจจองร้านเมื่อมีประสบการณ์พิเศษให้ลอง ส่วน 36% ชอบร้านประจำย่าน มากกว่าร้านเปิดใหม่

เมนูยอดนิยมในปี 2026

• มัทฉะ (88%)
• แฮนด์โรล (78%)
• สาหร่าย (66%)
• สไปซี่ริกาโทนี (56%)
• บาสก์ชีสเค้ก (44%)
• เมนูคลาสสิกอเมริกัน เช่น chicken pot pie, meatloaf, shrimp cocktail

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมร้านอาหารมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องรายได้รวมคาดใกล้ 1.5 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2025 และคาดว่ามีการจ้างงานราว 15.9 ล้านคน ตามข้อมูลสมาคมร้านอาหารแห่งชาติ (NRA)

ขณะที่ผู้บริโภคยังคงนิยมออกไปรับประทานอาหาร แม้ระมัดระวังค่าใช้จ่ายมากขึ้น แต่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า ความสะดวก และประสบการณ์พิเศษ ร้านอาหารจึงปรับตัวด้วยระบบจองโต๊ะ ซอฟต์แวร์จัดการร้าน และเทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพบริการ

รายงานชี้ว่า ร้านอาหารที่ตอบโจทย์ “value + experience + convenience + sustainability + digital” จะมีโอกาสเติบโตสูงในตลาดสหรัฐฯ ปี 2026 และต่อเนื่องในอนาคต