นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจ วันที่ 24 พ.ย.นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการส่งเสริมการลงทุนเร่งด่วน หรือ "Fast Pass" ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับระบบ Easy Pass บนทางด่วน
ทั้งนี้ เพื่อปลดล็อกปัญหาที่นักลงทุนติดขัด โดยคาดว่าจะสนับสนุนให้มีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจได้กว่า 3 แสนล้านบาท จากเม็ดเงินที่ค้างท่ออยู่กว่า 4.7 แสนล้านบาท
“ถ้านักลงทุนถือ Fast Pass นี้ เมื่อติดต่อไปยังหน่วยงานใดๆ หน่วยงานนั้นจะต้องเร่งพิจารณาและอนุมัติโดยเร็ว รวมถึงปลดล็อกข้อติดขัดต่างๆ เพื่อให้นักลงทุนสามารถเริ่มดำเนินการลงทุนได้ ซึ่งจะเสนอครม.เศรษฐกิจอนุมัติในวันที่ 24 พ.ย.นี้ และคาดว่าจะเริ่มใช้ได้ และมีเม็ดเงินเข้ามาช่วงต้นปี 2569”
นายเอกนิติ กล่าวว่า มีนักลงทุนแสดงความจำนงขอเข้ามาลงทุนในประเทศไทยผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) มูลค่ารวมประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท โดยนักลงทุนกลุ่มนี้มากกว่า 90% กำลังรอการลงทุนในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม พบว่ามีปัญหาที่นักลงทุนยังติดขัดในกระบวนการต่าง ๆ เช่น การขอใบอนุญาต หรือขั้นตอนการขออนุมัติต่าง ๆ
ทั้งนี้ จากการพิจารณา โครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าการลงทุนเกินกว่า 1,000 ล้านบาท มีอยู่ประมาณ 70 กว่าโครงการ ซึ่งโครงการเหล่านี้มีความพร้อมที่จะลงทุนทันทีที่ปัญหาถูกปลดล็อก เราจึงจะเดินหน้านโยบาย Fast Pass เพื่อสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยด้วย
ทั้งนี้ ข้อติดขัดที่สำคัญ ได้แก่ กระบวนการขอแรงงานทักษะสูง (SK labor) ซึ่งนักลงทุนต้องขอวีซ่าจากกระทรวงการต่างประเทศ ขออนุญาตส่งคนเข้าเมือง และนำใบอนุญาตจาก BOI ไปขอวีซ่าอีกครั้ง รวมถึงปัญหาการขอไฟฟ้า ซึ่งเป็นตัวอย่างของกระบวนการที่ซับซ้อน