ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์-สงครามการค้าฉุดการลงทุนโดยตรงโลกหดตัว 2 ปีติด
อนุสรณ์ชี้ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์-สงครามการค้าฉุดการลงทุนโดยตรงของโลกหดตัว 2 ปีติด ด้านการค้าชายแดนไทย-กัมพูชาหยุดชะงัก
KEY
POINTS
- การลงทุนโดยตรงของโลก (FDI) หดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันในอัตราเลขสองหลัก
- สาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และสงครามการค้า ซึ่งนำไปสู่ภาวะโลกาภิวัตน์แตกขั้ว
- สวนทางกับแนวโน้มโลก การลงทุนโดยตรงในภูมิภาคอาเซียนยังคงขยายตัวเป็นบวก เนื่องจากมีเสถียรภาพมากกว่าภูมิภาคอื่น
- ทิศทางการลงทุนมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น AI, รถยนต์ไฟฟ้า และพลังงานสะอาด ซึ่งใช้เงินทุนสูงแต่มีการจ้างงานน้อย
นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ (DEIIT) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การลงทุนของกลุ่มทุนไทยในกัมพูชาหดตัวอย่างชัดเจน การค้าตามแนวชายแดนหยุดชะงักสิ้นเชิง
ขณะที่การลงทุนโดยตรง หรือ FDI ของโลกก็หดตัวต่อเนื่องสองปีเป็นตัวเลขสองหลัก ซึ่งเป็นผลจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ สงครามการค้า มีผลทำให้ โลกาภิวัตน์แตกขั้ว
อย่างไรก็ตาม FDI ในอาเซียนยังคงขยายตัวเป็นบวก เมื่อปีที่แล้ว อาเซียนรับ FDI รวมกว่า 2.25 แสนล้านดอลลาร์
ปัจจัยหนึ่งที่ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเพราะเป็นภูมิภาคที่มีเสถียรภาพและมีความสงบเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น
สงครามชายแดนระหว่างไทยกัมพูชาอาจทำให้ปัจจัยบวกของภูมิภาคลดลงอย่างมาก
ขณะเดียวกัน FDI ของโลกก็มุ่งอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น โครงสร้างพื้นฐานปัญญาประดิษฐ์ ศูนย์ข้อมูล Data Center ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ รถยนต์ไฟฟ้า พลังงานสะอาด เป็นต้น
การลงทุนในอุตสาหกรรมเหล่านี้ใช้ทุนเข้มข้น ใช้เทคโนโลยีเข้มข้นแต่มีการจ้างแรงงานน้อย ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเวลานี้ คือ แรงงานใหม่อายุน้อยว่างงานเพิ่มในสังคมไทย