KEY
POINTS
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้เห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) นำมาตรฐานในตราสารทางกฎหมายขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) มากำหนดเป็นตัวชี้วัด (KPI) เพื่อประเมินผลการปฏิบัติราชการของหัวหน้าส่วนราชการ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
ทั้งนี้ นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา แจ้งต่อที่ประชุมว่าปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้เผยแพร่ตราสารทางกฎหมายของ OECD มากกว่า 240 ฉบับ ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่ดีของประเทศสมาชิก OECD ที่สามารถส่งเสริมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืนและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล รวมทั้งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุว่า การกำหนด KPI ดังกล่าวจะช่วยให้หน่วยงานภาครัฐสามารถปรับตัวและขับเคลื่อนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่ดีของประเทศสมาชิก OECD เพื่อเตรียมการเข้าร่วมเป็นสมาชิกต่อไป
ขณะที่นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานกรรมการฯ เห็นว่าเป้าหมายการเข้าร่วมเป็นสมาชิก OECD ของไทยที่กำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปี (ภายในปี พ.ศ. 2573 หรือ ค.ศ. 2030) เป็นระยะเวลาที่ยาวนานเกินไป จึงเห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดกระบวนการต่างๆ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิก OECD ได้เร็วขึ้นกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์มีความเห็นว่า การดำเนินการเพื่อรองรับการเข้าร่วมเป็นสมาชิก OECD จะต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคเอกชนด้วย เนื่องจากจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งในด้านโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและสอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่ดีของประเทศสมาชิก OECD
อย่างไรก็ตามนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แจ้งต่อที่ประชุมว่า ขอสนับสนุนแนวความเห็นดังกล่าว โดยเสนอว่าควรดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 2-3 ปี เพื่อให้ไทยสามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิก OECD ได้เร็วขึ้น
ดังนั้นที่ประชุมครม.เศรษฐกิจ จึงมีมติมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินกระบวนการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าเป็นสมาชิก OECD ของไทยให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิก OECD ได้เร็วขึ้นกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้