'อนุทิน' ประกาศโรดแมปไทยร่วมวงสมาชิก OECD ปลดล็อกคอร์รัปชัน

08 ต.ค. 2568 | 05:35 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ต.ค. 2568 | 05:46 น.

นายกฯ 'อนุทิน' พร้อมประกาศเดินหน้า 3 วาระสำคัญ วางโรดแมปเตรียมความพร้อมประเทศไทยสู่การเป็นสมาชิก OECD ดันหลักนิติธรรมปลดล็อกคอร์รัปชัน ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันไทย

KEY

POINTS

  • รัฐบาลประกาศโรดแมปนำประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิก OECD โดยมุ่งยกระดับมาตรฐานด้านกฎหมายและหลักนิติธรรม
  • หนึ่งในวาระสำคัญคือการแก้ปัญหาคอร์รัปชันและปฏิรูปกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อธุรกิจ เพื่อป้องกันธุรกิจสีเทาและสร้างการแข่งขันที่เป็นธรรม
  • สร้างความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมของประชาชนผ่าน Open Government โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเปิดเผยข้อมูลภาครัฐให้ตรวจสอบได้

วันนี้ (8 ตุลาคม 2568) ที่สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานและกล่าวปาฐกถาพิเศษในเวที “The Rule of Law Forum ครั้งที่ 3” หัวข้อ “การฟื้นฟูโครงสร้างเชิงระบบและหลักนิติธรรม เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ตอนหนึ่งระบุว่า รัฐบาลมีแผนดำเนินการเพื่อนำไปสู่เส้นทางของการเป็นสมาชิก OECD ที่ต้องมีมาตรฐาน มีธรรมาภิบาล มีหลักนิติธรรม ผ่านการดำเนินการใน 3 วาระสำคัญ ดังนี้

1. การวาง Roadmap ด้านหลักนิติธรรมเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นสมาชิก OECD ปักหมุดแผนการยกระดับมาตรฐานด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม

2. การปลดล็อกคอร์รัปชันและปฏิรูปกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ และที่สำคัญป้องกัน ช่องโหว่ทางกฎหมายหรือกลไกที่ไม่โปร่งใส เพื่อไม่ให้เกิด “ธุรกิจสีเทา” และให้ธุรกิจสุจริตสามารถแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม และได้รับการสนับสนุนอย่างแท้จริง และ 

3. การสร้างความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมของประชาชน ด้วยการยกระดับ Open Government ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ อย่างโปร่งใสและเข้าถึงได้จริง เพื่อให้ประชาชน ติดตาม ตรวจสอบ และ สะท้อนความคิดเห็นต่อการทำงานของรัฐได้อย่างเป็นระบบ และรัฐจะต้องมีองค์กรที่รับฟังความคิดเห็นเหล่านี้ได้  

ทั้งนี้ เป้าหมายสำคัญคือการสร้างระบบนิเวศของความโปร่งใสทุกการตัดสินใจจะต้องถูกตรวจสอบได้ทุกขั้นตอนการใช้งบประมาณ และการดำเนินนโยบาย จะต้องเปิดเผยและเปิดโอกาสให้สังคมเข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง

 

'อนุทิน' ประกาศโรดแมปไทยร่วมวงสมาชิก OECD ปลดล็อกคอร์รัปชัน

 

นายอนุทิน กล่าวว่า หลักนิติธรรม เป็นคำที่ถูกอ้างถึงบ่อยแต่กลับมีผู้นำไปใช้ผิดเช่นกัน พร้อมยืนยันว่าได้ยึดถือในหลักนิติธรรมและนำหลักธรรมไปใช้ประกอบในการใช้ชีวิตตั้งแต่สมัยประกอบธุรกิจ จนกระทั่งมาสู่การเป็นนักการเมืองและนายกรัฐมนตรีในที่สุด

ทั้งนี้ได้เปรียบความยุติธรรมเสมือนเสาเข็มของทุกสังคมที่จำเป็นต่อการดำรงอยู่ของมนุษย์ และความยุติธรรมต้องเป็นของทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่ถูกจำกัดไว้เฉพาะกลุ่มคนบางกลุ่ม (Justice for all, not justice for some) รวมทั้งไม่มีประเทศใดในโลกจะแข่งขันได้อย่างยั่งยืน หากขาดหลักนิติธรรมที่มั่นคง และการสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแรงต้องอาศัยกฎหมายที่มั่นคง แน่นอน คาดเดาได้ และต้องมีความไว้วางใจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและประชาชน 

พร้อมระบุว่า หลักนิติธรรมไม่ใช่แค่เรื่องของกฎหมาย แต่คือวัฒนธรรมแห่งความเป็นธรรมที่ต้องปลูกฝังให้หยั่งรากในทุกระดับของสังคม เพื่อให้มีทั้งกฎหมายที่เป็นธรรมและมีระบบที่ทุกคนเชื่อมั่น และยืนหยัดบนความถูกต้อง

นายกฯ กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทายทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม มีความเหลื่อมล้ำ ขาดเสถียรภาพของระบบการเมือง และปัญหากลไกการปกครอง ซึ่งมีรากเหง้ามาจากความอ่อนแอของโครงสร้างทางกฎหมายและวัฒนธรรมที่ไม่เอื้อต่อความเป็นธรรม หน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐจึงต้องยึดหลักนิติธรรมอย่างเข้มแข็ง มีความกล้าหาญบังคับใช้กฎหมายเพื่อความถูกต้อง เที่ยงธรรม และไม่ยอมให้กระบวนการยุติธรรมถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง กลั่นแกล้ง กดดัน และข่มขู่

 

'อนุทิน' ประกาศโรดแมปไทยร่วมวงสมาชิก OECD ปลดล็อกคอร์รัปชัน

 

ทั้งนี้รัฐบาลได้บรรจุในคำแถลงนโยบายให้ถือว่าการใช้กฎหมายเพื่อประโยชน์ทางการเมืองหรือการละเว้นการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าพนักงานรัฐ ในการดำเนินการป้องกันปราบปรามยาเสพติด บ่อนการพนัน การพนันออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติ ภัยไซเบอร์ การสร้างข่าวปลอมการหลอกลวงประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ ถือเป็นความผิดวินัยร้ายแรงและต้องดำเนินคดีอาญาอย่างเด็ดขาด เพื่อยกระดับความเชื่อมั่นของประชาชนและนักลงทุนต่างประเทศ โดยหลักนิติธรรมคือ ต้นทุนของความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ

 

'อนุทิน' ประกาศโรดแมปไทยร่วมวงสมาชิก OECD ปลดล็อกคอร์รัปชัน