KEY
POINTS
วันนี้ (14 พฤศจิกายน 2568) นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมรวมพลังเสริมแกร่งสู่ความยั่งยืนของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน ว่า เป็นการประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์และกำหนดกรอบการทำงาน รวมถึงเป้าหมายการดำเนินการ ครอบคลุมใน 3 ด้าน ได้แก่
1.ปัญหาสินค้าราคาถูก ด้อยคุณภาพและผิดกฎหมายจากต่างประเทศ
2. ปัญหาสินค้าเข้ามาแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ผลิตไทย
3. ปัญหาการสวมสิทธิถิ่นกำเนิดสินค้า(Transshipment) เพื่อนำไปสู่การเข้มงวดคัดกรองสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ลดปัญหาสินค้าด้อยคุณภาพทะลักเข้าประเทศไทย
รวมถึงสร้างตระหนักรู้ในเรื่องระบบการตรวจถิ่นกำเนิด เพื่อเป็นการรองรับภาษีสหรัฐ ที่อยู่ระหว่างการเจรจาและมีเป้าหมายร่วมจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปี 2568 นี้
นางศุภจี กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการเตรียมข้อมูล ก่อนเข้าไปหารือในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย (คสธก.) ครั้งแรก ที่มีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ที่กระทรวงการคลัง ในวันที่ 9 ธันวาคม 2568
โดยมีหน่วยงานรัฐและเอกชนเข้าร่วม 12 หน่วยงาน ซึ่งจะมีการกำหนดแนวทาง เป้าหมาย และตั้งคณะทำงาน
ทั้งนี้ ในการประชุมกรมศุลกากร ได้รายงานต่อประชุมว่า กรมฯขอความร่วมมือกับเจ้าของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ดำเนินการในไทย แจ้งรายละเอียดข้อมูลจำนวนและราคา พร้อมกับกำกับสินค้าขายบนออนไลน์ต้องได้มาตรการฐานไทยก่อนเปิดการขายและห้ามนำเข้าโดดเด็ดขาด
โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 จะมีการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศตั้งแต่ราคา 1 บาท จากเดิมผ่อนปรนจัดเก็บสินค้านำเข้าที่มูลค่าเกิน 1,500 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการดูแลเรื่องสินค้าด้อยคุณภาพและนอมินี ในรัฐบาลก่อน ได้มีการแยกการทำงานออกเป็น 2 ส่วน เน้นดูแลมาตรฐานสินค้า และ ป้องปรามนอมินี แต่คณะกรรมการชุดรัฐบาลนี้ จะแยกตั้งเป็น 2 อนุกรรมการย่อย ได้แก่ อนุกรรมการด้านดูแลสินค้า และอนุกรรมการด้านดูแลธุรกิจ