รัฐบาลจัดหนัก 20 มาตรการเศรษฐกิจ กระตุ้นต่อเนื่อง 4 เดือนก่อนยุบสภา

12 พ.ย. 2568 | 10:16 น.
อัปเดตล่าสุด :12 พ.ย. 2568 | 10:23 น.

เปิดไทม์ไลน์ 20 มาตรการเศรษฐกิจ รัฐบาลอนุทิน กระตุ้นต่อเนื่อง 4 เดือนก่อนยุบสภา ครอบคลุมประชาชน 65 ล้านคนครบทุกกลุ่ม จับตาสารพัดมาตรการใหญ่ทยอยคลอด พ่วงไฮไลท์ คนละครึ่งเฟส 2

KEY

POINTS

  • รัฐบาลเตรียมผลักดัน 20 มาตรการเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 4 เดือน (ต.ค. 68 - ม.ค. 69) ก่อนการยุบสภา
  • มาตรการดังกล่าวครอบคลุมโครงการที่หลากหลาย เช่น การเติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ, โครงการคนละครึ่งพลัส, มาตรการแก้หนี้ประชาชน และการส่งเสริมการลงทุน
  • ในจำนวน 20 โครงการ ได้ผ่านการอนุมัติแล้ว 9 โครงการ ส่วนที่เหลืออีก 11 โครงการจะทยอยนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจพิจารณาต่อไป

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลได้กำหนดไทม์ไลน์การขับเคลื่อนมาตรการทางด้านเศรษฐกิจผ่านโครงการที่สำคัญ ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 ต่อเนื่องถึงเดือนมกราคม 2569 ซึ่งล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ หรือ ครม.เศรษฐกิจ ได้รับทราบข้อมูลล่าสุดของโครงการด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่จะต้องผลักดันออกมาให้สำเร็จในช่วง 4 เดือนก่อนยุบสภา รวมทั้งสิ้น 20 โครงการ โดยที่ผ่านมาได้ผ่านการเห็นชอบแล้ว 9 โครงการ ส่วนที่เหลืออีก 11 โครงการ จะทยอยนำเสนอเข้ามาให้ครม.เศรษฐกิจ พิจารณาต่อไป

สำหรับภาพรวมโครงการทั้งหมด ตามไทม์ไลน์ของรัฐบาล เริ่มต้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 ซึ่งมีโครงการสำคัญที้ดำเนินการไปแล้ว คือ 

1.โครงการเติมวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านการเติมเงินให้ครั้งละ 850 บาท เป็นระยะเวลา 2 เดือน ในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม 2568ใช้เงินงบประมาณ 22,780 ล้านบาท ครอบคลุมผู้มีรายได้น้อยจำนวน 13.4 ล้านคน  

2.โครงการคนละครึ่งพลัส ซึ่งเริ่มดำเนินโครงการแล้ว อยู่ระหว่างการใช้สิทธิ์ของประชาชนและร้านค้า โดยให้รัฐบาลโอนลงไปยังแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อช่วยค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริหารคนละ 2,000-2,400 บาท ใช้เงินงบประมาณ 44,000 ล้านบาท 

3.มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว เที่ยวดีมีคืน ซึ่งเริ่มดำเนินโครงการแล้ว อยู่ระหว่างการใช้สิทธิ์ของประชาชนและผู้ประกอบการ

4.มาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายภาครัฐ  โดยเฉพาะการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ Front Load ด้านการฝึกอบรม ประชุม สัมมนา

5.มาตรการส่งเสริมพลังงานสะอาด ของกระทรวงพลังงาน เช่น โซลาร์เพื่อประชาชน และระบบพลังงานรองรับอุตสาหกรรม เป็นต้น

ส่วนเดือนพฤศจิกายน 2568 มีโครงการสำคัญ คือ 

1.มาตรการแก้หนี้ประชาชน ที่มีภาระหนี้ต่ำกว่า 1 แสนบาท ผ่านกลไกการบริหารหนี้เสีย (AMC) ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากครม.เศรษฐกิจแล้ว

2.มาตรการของกระทรวงพาณิชย์  ทั้ง การดูแลค่าครองชีพ ราคาสินค้าเกษตร ถิ่นกำเนิดสินค้า และการตรวจสอบนิติบุคคล ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากครม.เศรษฐกิจแล้ว

3.โครงการ Upskill หรือ Reskill ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส จะได้รับเงินสนับสนุน 2,000 บาท ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากครม.เศรษฐกิจแล้ว

4.โครงการยกระดับทักษะด้านดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์เพื่อคนไทย มีเป้าหมายให้คนไทย 5 ล้านคน ใช้งาน AI ฟรี 1 ปี ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากครม.เศรษฐกิจแล้ว 

5.มาตรการส่งเสริม SMEs โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร และกรมศุลกากร โดยเตรียมเสนอเข้ามายังครม.เศรษฐกิจ ครั้งหน้า

6.มาตรการกระทรวงอุตสาหกรรม โดยเตรียมเสนอเข้ามายังครม.เศรษฐกิจ ครั้งหน้า

7.มาตรการกระทรวงพลังงาน โดยเตรียมเสนอเข้ามายังครม.เศรษฐกิจ ครั้งหน้า

8.มาตรการการคลังเพื่อวางรากฐาน โดยเตรียมเสนอเข้ามายังครม.เศรษฐกิจ ครั้งหน้า

9.มาตรการการลงทุนเพื่ออนาคต โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งเตรียมเสนอครม.เศรษฐกิจสัปดาห์สุดท้ายของเดือนนี้ 

10.โครงการ Business Transformation ของธนาคารแห่งประเทศไทย ล่าสุดอยู่ระหว่างการร่างแผนและเตรียมเสนอครม.เศรษฐกิจสัปดาห์สุดท้ายของเดือนนี้

ส่วนเดือนธันวาคม 2568 มีโครงการสำคัญ คือ 

1.สลากเพื่อการออม  โดยกระทรวงการคลัง  ล่าสุดอยู่ระหว่างการหารือและร่างแผน ก่อนจะเสนอครม.เศรษฐกิจ ในสัปดาห์แรกของเดือนนี้

2.พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการออม โดยกระทรวงการคลัง  ล่าสุดอยู่ระหว่างการหารือและร่างแผน ก่อนจะเสนอครม.เศรษฐกิจ ในสัปดาห์แรกของเดือนนี้

3.โครงการ Thailand Individual Account (TISA) หรือบัญชีเงินออมเพื่อการลงทุนในหุ้น ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ล่าสุดอยู่ระหว่างการหารือและร่างแผน ก่อนจะเสนอครม.เศรษฐกิจ ในสัปดาห์แรกของเดือนนี้เช่นดัน

4.การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) เพื่อติดตามผลเชิงนโยบาย ของรัฐบาล ครอบคลุมด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจ การกระจายรายได้ และการวางรากฐานระบบเศรษฐกิจ ล่าสุดมีการสร้าง Analytics Dashboard แล้ว โดยจะเสนอเข้ามาให้ ครม.เศรษฐกิจ รับทราบต่อไป

สุดท้ายเดือนมกราคม มีโครงการสำคัญ คือ 

1.โครงการคนละครึ่งเฟส 2 (Upskill / Reskill) ซึ่งขณะนี้หน่วยงานต่าง ๆ อยู่ระหว่างการหารือรายละเอียดและเริ่มร่างแผนการดำเนินโครงการแล้ว ก่อนจะสรุปและเสนอมายังครม.เศรษฐกิจ ต่อไปในสัปดาห์แรกของเดือนนี้

แหล่งข่าวระบุว่า ในการดำเนินมาตรการหรือโครงการทั้งหมดนี้ รัฐบาลตังใจผลักดันนโยบายต่าง ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีมาตรการต่าง ๆ ที่ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม 65 ล้านคน ทั้งกลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง และกลุ่มผู้มีรายได้สูง โดยประชาชนแต่ละกลุ่มจะได้รับประโยชน์จากมาตรการหรือโครงการสนับสนุนกับบริบทของตนเอง โดยมีเป้าหมายให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไป