ขยายอายุเกษียณไม่ตอบโจทย์สังคมสูงวัย นักวิชาการชี้รัฐแบกภาระเพิ่มขึ้น

10 พ.ย. 2568 | 02:00 น.

อนุสรณ์ชี้การขยายอายุเกษียณราชการทั้งระบบไม่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาสังคมสูงวัย ระบุรัฐแบกภาระงบประมาณเพิ่มขึ้นมาก

KEY

POINTS

  • การขยายอายุเกษียณราชการไม่ตอบโจทย์สังคมสูงวัย เพราะปัญหาการขาดแคลนแรงงานอยู่นอกระบบราชการ และยังเป็นการปิดกั้นโอกาสของคนรุ่นใหม่
  • ทำให้ภาครัฐต้องแบกรับภาระงบประมาณเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากการจ่ายเงินเดือนข้าราชการที่สูงขึ้นตามอายุงานเป็นเวลานานขึ้น
  • อาจส่งผลให้ผลิตภาพ (Productivity) ของระบบราชการโดยรวมลดลง เนื่องจากประสิทธิภาพและการปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีมักลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ (DEIIT) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ข้อเสนอให้ขยายอายุเกษียณราชการทั้งระบบนั้นไม่ตอบโจทย์แก้ปัญหาสังคมสูงวัย กำลังแรงงานที่ลดลงจากสังคมสูงวัยนั้นเกิดขึ้นนอกระบบราชการ 

ขณะที่ระบบราชการมีคนหนุ่มสาวรอเข้าระบบราชการนับแสนคน ไม่สามารถรับการบรรจุเป็นข้าราชการได้เพราะรอตำแหน่งว่างจากการเกษียณอายุ เมื่อขยายอายุเกษียณออกไปอีกจะทำให้ปัญหาคนหนุ่มสาวที่อยากรับราชการไม่สามารถเข้าสู่ระบบราชการได้เพิ่มขึ้นไปอีก หมายความว่า แรงงานที่ต้องการเข้ารับราชการนั้นมีมากกว่าตำแหน่งที่ว่าง สะท้อนกำลังแรงงานข้าราชการไม่ได้ขาดแคลนแต่อย่างใด 

หากจะขาดแคลนก็จะมีเฉพาะงานบางอย่างเท่านั้น ซึ่งควรจะมีการขยายอายุเกษียณเป็นรายกรณีเป็นรายปีไป หรือผู้ที่เกษียณที่มีความสามารถและยังสามารถทำงานได้ หน่วยงานก็สามารถตั้งเป็นที่ปรึกษาหรือเป็นผู้บริหารได้อยู่แล้ว การขยายอายุเกษียณทั้งระบบจะทำให้ภาครัฐต้องแบกรับภาระทางงบประมาณเพิ่มมากขึ้นอย่างมาก 

และโดยฐานะทางการคลังขณะนี้ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากระบบเงินเดือนของข้าราชการนั้น เงินเดือนจะสูงขึ้นเรื่อยๆเมื่อใกล้เกษียณ เมื่อขยายอายุเกษียณ รัฐก็จะต้องจ่ายเงินเดือนข้าราชการเพิ่มขึ้น ผลิตภาพของทั้งระบบราชการก็ไม่เพิ่มขึ้น ผลิตภาพของแรงงานโดยเฉลี่ยจะลดลงเมื่ออายุเกิน 55-60 ปี และการปรับตัวให้เท่าทันกับเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงต่างๆก็ด้อยลงอีกด้วย  เมื่อเปรียบเทียบกับการขยายอายุเกษียณในระบบของเอกชนหรือแรงงานในระบบประกันสังคมจะมีความแตกต่างกัน เพราะกรณีของเอกชน และแรงงานในระบบประกันสังคมจะตอบโจทย์สังคมผู้สูงวัยและลดภาระการจ่ายเงินบำนาญชราภาพของกองทุนประกันสังคม 

ขณะที่อายุเกษียณของภาคเอกชนในบางธุรกิจอุตสาหกรรมนั้นลดลงมาเหลือ 45 ปี เพื่อสะท้อนผลิตภาพแรงงานตามพลวัตเศรษฐกิจสังคม ย่อมหมายความว่า จะมีแรงงานในภาคเอกชนที่ออกจากระบบบการจ้างงานแบบเป็นทางการเร็วขึ้น โดยที่ไม่มีปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เพราะแรงงานมนุษย์จะถูกแทนที่โดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอมากขึ้น โจทย์ที่สำคัญกว่า คือ การแบ่งปันผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่เป็นธรรม 

ซึ่งต้องมีการออกแบบระบบเศรษฐกิจและสังคมใหม่ ให้แรงงานมนุษย์สามารถมีปัจจัยในการดำรงชีพได้แม้นทำงานน้อยลง ลดช่วงเวลาในการทำงานลงโดยผลตอบแทนจากการทำงานต้องไม่ลดลงหรือต้องเพิ่มขึ้น เพราะผลิตภาพโดยรวมของระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจากการใช้เทคโนโลยี