จับตา ธปท. 11 พ.ย. แถลงราคาซื้อขายหนี้เสีย 6.2 หมื่นล้านบาท

05 พ.ย. 2568 | 09:26 น.
อัปเดตล่าสุด :05 พ.ย. 2568 | 09:26 น.

รัฐบาลสั่งลุยแก้หนี้ 2.36 ล้านบัญชี ใช้กลไก AMC ซื้อหนี้เสียรายย่อย 6.2 หมื่นล้านบาท เปิดทางลูกหนี้รายละไม่เกินแสน เคลียร์จบ-เข้าถึงสินเชื่อใหม่  ธปท.เตรียมแถลงราคารับซื้อหนี้ 11  พ.ย.นี้

รัฐบาลเดินหน้าโครงการแก้ปัญหาหนี้เสียผ่านกลไกการซื้อหนี้รายย่อยของบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เริ่มเฟสแรก ครอบคลุมลูกหนี้รายย่อยของธนาคารพาณิชย์และผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร(นอนแบงก์)ที่เป็นบริษัทลูก

รวมทั้งลูกหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ(SFIs) ซึ่งเป็นหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) ไม่มีหลักประกันรวมกันไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย รวม 2.36 ล้านบัญชี คิดเป็นภาระหนี้ประมาณ 62,400 ล้านบาท 

จากนั้นจะมีการพิจารณาขยายขอบเขตการช่วยเหลือไปยังลูกหนี้ขอนอนแบงก์อื่น ตามหลักการเดียวกัน ครอบคลุมลูกหนี้ 3.4 ล้านราย หรือ 4.76 ล้านบัญชี คิดเป็นภาระหนี้กว่า 122,000 ล้านบาท

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า การแก้ไขปัญหาหนี้รายย่อยครั้งนี้ ทาง AMC จะออกแบบกระบวนการเจรจาหนี้ให้ลูกหนี้มีช่องทางเคลียร์หนี้ง่ายขึ้น และจะมีการจัดวงเงินกู้ใหม่จากธนาคารรัฐ จาก AMC หรือแหล่งเงินต่างๆ เพื่อให้ลูกหนี้มีเงินเพียงพอในการดำรงชีพ หรือประกอบอาชีพเพิ่มเติม เพื่อจูงใจให้ลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการแก้ปัญหาหนี้ในระยะยาว 

สำหรับแหล่งเงินที่ใช้ในการแก้หนี้รายย่อยครั้งนี้ ถ้าเป็นการโอนหนี้ให้ SAM จะใช้เงินจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน(FIDF) ส่วน อารีย์ AMC จะใช้เงินกู้จากออมสิน ที่ธุรกิจบริหารจัดการเรื่องนี้อยู่แล้ว ส่วนราคาการซื้อขายหนี้จะเท่าไหร่นั้น ขอให้รอธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แถลงวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้

“เรื่องเงินกู้เพิ่มเติมให้ลูกหนี้  กระทรวงการคลังกำลังดูเรื่องเงื่อนไขการให้สินเชื่อประชาชน เพื่อไม่ให้ก่อหนี้เพิ่มเติม เช่น อาจกำหนดเงื่อนไข ไม่ให้นำไปบริโภค แต่เพื่อการลงทุน ค้าขาย” 

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า การแก้หนี้รายย่อยเฟสแรก แยกเป็น 2 กลุ่มคือ

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

  • กลุ่มที่ 1 ดำเนินการแก้ปัญหาหนี้เสียผ่านกลไกการซื้อหนี้โดย AMC ลูกหนี้ที่อยู่กับธนาคารพาณิชย์ ลูกหนี้ของบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ และลูกหนี้ SFIs จำนวน 1.56 ล้านบัญชี เป็นจำนวนลูกหนี้ทั้งหมด 1.25 ล้านคน คิดเป็นภาระหนี้กว่า 43,600 ล้านบาท 

ลูกหนี้ในกลุ่มนี้จะโอนหนี้ไปให้กับ AMC ทั้ง บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) หรือบริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด (Ari-AMC) โดยให้ AMC นำหนี้ดังกล่าวมาปรับโครงสร้างหนี้ผ่านการเสนอเงื่อนไขการผ่อนชำระที่ผ่อนปรนและเหมาะกับความสามารถของคนกลุ่มนี้มากขึ้น เช่น การลดดอกเบี้ย ไม่คิดดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมการจ่ายชำระเพียงบางส่วนเพื่อปิดบัญชี 

  • กลุ่มที่ 2 การช่วยเหลือเพิ่มเติมโดย SFIs ดำเนินการเอง จำนวน 790,000 บัญชี เป็นลูกหนี้ทั้งหมด 700,000 คน คิดเป็นภาระหนี้กว่า 18,800 ล้านบาท โดย SFIs จะมีมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้เป็นมาตรการเฉพาะของแต่ละธนาคาร

เพื่อบริหารจัดการหนี้ให้เหมาะสมกับศักยภาพของลูกหนี้ SFIs เนื่องจากลูกหนี้ของ SFIs กลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีความเปราะบางมากกว่าลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์ หรือได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐผ่านกลไกอื่นแล้ว 

ทั้งนี้ SFIs จะมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มเติม เช่น มาตรการชำระบางส่วนเพื่อปิดบัญชี ลดเงินต้นยกเว้นดอกเบี้ยทั้งหมด มาตรการติดตามทวงถามให้ชำระหนี้ที่ผ่อนปรนมากกว่าเกณฑ์ปกติของธนาคาร การปิดบัญชีและตัดเป็นหนี้สูญสำหรับลูกหนี้ขาดศักยภาพ 

“กลุ่มคนเหล่านี้เป็นคนจำนวนมากมีภาระหนี้ที่หนัก ผ่อนชำระไม่ไหว รัฐบาลจึงต้องการแก้ปัญหานี้อย่างยั่งยืน โดยแนวทางการช่วยเหลือจะโอนหนี้ทั้งหลายให้ไปอยู่กับ AMC 2 กลุ่ม ทั้ง SAM และ Ari-AMC เพื่อปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรน เช่น ลดภาระ ผ่อนชำระ การปิดหนี้ และจะบริหารจัดการหนี้แบบรวมศูนย์ เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกที่มีประวัติการชำระที่ดีมีโอกาสกลับเข้าถึงเชื่อในระบบได้มากขึ้น” 

 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,146 วันที่ 6 - 8 พฤศจิกายน  พ.ศ. 2568