ศุลกากรประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้า ตั้งแต่บาทแรก 1 ม.ค.69

05 พ.ย. 2568 | 06:46 น.
อัปเดตล่าสุด :05 พ.ย. 2568 | 06:55 น.

ศุลกากรประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแพลตฟอร์มออนไลน์ ตั้งแต่ 1 บาทแรก เริ่ม 1 ม.ค.69 เรียก ‘Shopee –Lazada’ หารือศุกร์นี้ คาดเก็บรายได้เพิ่ม 3 พันล้านบาท

นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรพร้อมเดินหน้าตามนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาล ให้เห็นผลใน 4 เดือน โดยหนึ่งในนั้น คือ การเดินหน้าจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าที่สั่งซื้อบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1 บาทแรก เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.69 ซึ่งขณะนี้ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง รับทราบแนวทางในการดำเนินงานแล้ว

ทั้งนี้ ในวันศุกร์ ที่ 7 พ.ย.นี้ กรมจะมีการประชุมกับ Shopee และ Lazada เพื่อเตรียมความพร้อมการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าที่สั่งมากร้านที่ตั้งอยู่ต่างประเทศ ขณะที่การสั่งซื้อสินค้าจากแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ เช่น Tiktok, eBay, และ  Amazon ก็ต้องเสียภาษีนำเข้าตั้งแต่บาทแรกเหมือนกัน พร้อมทั้งจะขอความร่วมมือให้ช่วยตรวจสอบ ไม่ให้นำสินค้าที่ไม่มีใบอนุญาต เพื่อป้องกันไม่ให้นำสินค้าไม่ได้มาตรฐานมาจำหน่ายตั้งแต่ต้นทาง เช่น ไม่มีมาตรฐาน มอก.ก็ห้ามขายทางออนไลน์

สำหรับการดำเนินการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าที่สั่งซื้อบนแพลตฟอร์มออนไลน์นั้น จะส่งผลให้สินค้าที่สั่งซื้อจากแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Shopee และ Lazada กับร้านที่ตั้งอยู่ต่างประเทศจะต้องเสียภาษีนำเข้า บวกภาษีมูลค่าเพิ่ม หลังจากก่อนนี้มีการยกเว้นภาษีนำเข้ากับสินค้าที่ราคาไม่เกิน 1,500 บาท เก็บเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างเดียว เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการแข่งขันให้กับผู้ค้าคนไทยในประเทศที่เสียภาษีถูกต้อง ให้แข่งขันกับร้านค้าต่างประเทศที่ก่อนหน้านี้เสียแค่ภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า

นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร

ส่วนวิธีการคิดภาษี หากเป็นการซื้อสินค้าทางร้านออนไลน์ ที่อยู่ต่างประเทศจะต้องเสียภาษีนำเข้าตามพิกัดนั้น เช่น หากมีอากร 10% ก็ต้องเสีย และจากนั้นจะมาคิดภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7%  โดยผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ผู้ค้า หรือผู้ให้บริการขนส่งจะเป็นคนดำเนินการเหมือนกับก่อนหน้านี้ ที่กรมเคยเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้าต่ำกว่า 1,500 บาทแล้ว ซึ่งจะไม่เป็นภาระแก่ประชาชนที่จะต้องมาเสียภาษีเพิ่มเติมทีหลัง

ขณะที่กรณีคนที่สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่าน Shopee หรือ Lazada กับร้านค้าที่ตั้งอยู่ในไทยอยู่แล้ว จะไม่เกี่ยวข้องและไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าเพิ่มแต่อย่างใด เพราะผู้ประกอบการเป็นคนเสียภาษีไปแล้ว

“การเก็บภาษีนี้ กรมไม่ต้องแก้กฎหมายเพิ่มเติมอะไร เพราะก่อนหน้านี้เคยมีประกาศยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าที่ต่ำกว่า 1,500 บาทอยู่แล้ว ซึ่งกฎหมายจะหมดเขต 31 ธ.ค.นี้ ดังนั้นกรมจะไม่มีการต่ออายุ ก็เท่ากับจะเริ่มเก็บภาษีนำเข้าตั้งแต่บาทแรกได้เลย”

ทั้งนี้ วิธีการจัดการจะทำเหมือนกับสหรัฐอเมริกา ที่เคยยกเลิกการยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าออนไลน์ที่มีมูลค่าต่ำไปแล้ว เพื่อปกป้องผู้ค้าในประเทศ และเป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกกำลังทำ แม้จะขัดต่อข้อตกลงองค์การการค้าโลกบ้าง แต่ก็เป็นผลดีกับผู้ประกอบการในไทย

นายพันธ์ทอง กล่าวว่า การเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าที่สั่งซื้อออนไลน์กับร้านค้าที่ตั้งอยู่ต่างประเทศ คาดว่าจะทำให้กรมฯ มีรายได้เพิ่ม 3,000 ล้านบาท โดยคำนวณจากยอดนำเข้าสินค้าออนไลน์ที่มูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท ในแต่ละปีซึ่งมากกว่า 30,000 ล้านบาท และเสียภาษีเฉลี่ยที่ 10% อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวกรมมีแผนแก้กฎหมายเพื่อจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศให้เป็นอัตราเดียวด้วย

ขณะเดียวกัน กรมศุลกำลังพิจารณายกเลิกกฎหมายที่ให้รางวัลนำจับแก่เจ้าหน้าที่ศุลกากร เพื่อลดอุปสรรคทางการค้า ตามข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ เนื่องจากในข้อตกลงดังกล่าว ทางสหรัฐมีประเด็นที่ให้ประเทศไทยจะต้องยกเลิก เริ่มตั้งแต่เดือนพ.ย.นำร่องเจ้าหน้าที่ระดับ 8 ขึ้นไป ส่วนรางวัลสินบนของผู้แจ้งเบาะแสยังมีอยู่ 

สำหรับกรมศุล มี Quick Big Win 3 ด้าน ได้แก่

  1. การใช้มาตรการทางศุลกากรเพื่อกระตุ้นให้เกิดการค้า เช่น ปรับปรุงกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการนำเข้า–ส่งออก ปรับกระบวนการตรวจสินค้า ส่งเสริมการขนส่งสินค้าทางรถไฟ ปรับปรุงพิธีการถ่ายลำและผ่านแดน รวมถึงเปิดโอกาสให้ไอซีดี ตรวจปล่อยสินค้าขาออกได้โดยตรง
  2. การปกป้องสังคมจากสินค้าผิดกฎหมาย  ทำเอ็มโอยู กับแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อควบคุมการจำหน่ายของผิดกฎหมาย 
  3. การจัดเก็บรายได้ของรัฐอย่างเป็นธรรม  โดยมุ่งเก็บภาษีทุกประเภทกว่า 6 แสนล้านบาท นอกจากอากรนำเข้า 1.2 แสนล้านแล้ว ยังมีภาษีมูลค่าเพิ่ม 3.7 แสนล้าน และภาษีสรรพสามิต ภาษีเพื่อมหาดไทยอีกด้วย