KEY
POINTS
วันนี้ (30 ตุลาคม 2568) นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) โดยที่ประชุมเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติยกระดับการบริหารงานภาครัฐให้มีความทันสมัย พ.ศ. .... และเห็นชอบหลักการแก้ไขปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 เพื่อยกเลิกความซ้ำซ้อนกับกฎหมายอื่น และปรับปรุงหลักการให้สอดคล้องกับบริบทปัจจุบันและมาตรฐานสากล
นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า การเห็นชอบหลักการกฎหมายสำคัญทั้ง 2 ฉบับในวันนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของการปฏิรูประบบราชการไทย ตามนโยบายที่คณะรัฐมนตรีแถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ได้รับการสนับสนุนทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เพราะจะสามารถปลดล็อกข้อจำกัดจากกฎหมาย กฎระเบียบ เพิ่มความคล่องตัว เพื่อให้ภาครัฐสามารถตอบสนองต่อความท้าทายใหม่ ๆ ต่อไป
ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ระบุรายละเอียดว่า สำหรับร่าง พ.ร.บ.ยกระดับการบริหารงานภาครัฐให้มีความทันสมัย พ.ศ. .... มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาความซับซ้อนและข้อจำกัดของระบบราชการที่ยังขาดความคล่องตัว ไม่สามารถปรับตัวได้ทันการเปลี่ยนแปลงและตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ทันเวลา
ทั้งนี้เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ จะช่วยให้ภาครัฐทำงานเชิงรุกแบบบูรณาการ สามารถดึงผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกมาร่วมงานได้ และมีกลไกที่ยืดหยุ่นในการทดลองใช้นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ เพื่อยกระดับการให้บริการประชาชนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
สำหรับร่าง พ.ร.บ.ยกระดับการบริหารงานภาครัฐให้มีความทันสมัย พ.ศ. .... มีหลักการสำคัญ 4 ประการ ดังนี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาการปรับปรุงแก้ไขพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ซึ่งบังคับใช้มานานกว่า 20 ปี ทำให้บทบัญญัติหลายส่วนมีความซ้ำซ้อนกับกฎหมายที่ออกมาภายหลัง และไม่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมการบริหารราชการที่เปลี่ยนแปลงไป
ดังนั้นการปรับปรุงกฎหมายครั้งนี้จึงมีความจำเป็นเพื่อยกระดับหลักธรรมาภิบาลภาครัฐให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยเฉพาะแนวทางขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD)