‘สแกมเมอร์’ ตัดโอกาสไทยขึ้นแท่นศูนย์กลางทางการเงิน-ลงทุน

27 ต.ค. 2568 | 03:01 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ต.ค. 2568 | 03:01 น.

นักวิชาการชี้การเป็นแหล่งฟอกเงินของ ‘สแกมเมอร์’ และองค์กรอา๙ญากรรมข้ามชาติตัดโอกาสไทยขึ้นแท่นศูนย์กลางทางการเงินและการลงทุน

KEY

POINTS

  • ประเทศไทยได้กลายเป็นศูนย์กลางการฟอกเงินให้กับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและแก๊งสแกมเมอร์จากประเทศเพื่อนบ้าน
  • การเติบโตของเศรษฐกิจสีเทาและกิจกรรมฟอกเงินเหล่านี้ได้ทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุน และสั่นคลอนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ
  • ปัญหาการเป็นแหล่งฟอกเงินถือเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ไทยไม่สามารถพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์กลางทางการเงินและการลงทุนที่น่าเชื่อถือได้

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ (DEIIT) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ประเทศไทยนั้นล้อมรอบโดยประเทศที่เป็นแหล่งประกอบอาชญากรรมขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและศูนย์กลางหลอกลวงฉ้อโกงทางออนไลน์ และไทยได้กลายเป็นศูนย์กลางฟอกเงินจากกิจกรรมผิดกฎหมายและอาชญากรรมจากประเทศเพื่อนบ้านทั้งกัมพูชาและเมียนมา 

ทั้งนี้ แรงกดดันของนานาชาติต่อกัมพูชา เป็นโอกาสของรัฐบาลไทยในการเดินหน้าจัดการอย่างเด็ดขาดกับเศรษฐกิจสีเทาฟอกเงินเหล่านี้ การเติบโตของเศรษฐกิจสีเทาและกิจกรรมฟอกเงินจะสั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจจะไม่มีความน่าเชื่อถือ ไม่มีความแน่นอนไม่มีกรอบมาตรฐานในการดำเนินการ ขาดความยั่งยืนและไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนส่วนใหญ่  

การเป็นแหล่งฟอกเงินของสแกมเมอร์และองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติทำให้ไทยไม่อยู่ในสถานะที่จะพัฒนาสู่การเป็น ศูนย์กลางทางการเงินและการลงทุน ที่น่าเชื่อถือของนักลงทุนได้ การขยายใหญ่ของกิจกรรมผิดกฎหมาย และการเติบใหญ่ของกิจกรรมฟอกเงินในไทย เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจในระยะยาว ความมั่นคงของประเทศและความสงบเรียบร้อยของสังคม 

หากปล่อยให้ขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติและกิจกรรมฟอกเงินเติบโต กลุ่มเหล่านี้ก็อาจเข้ามามีบทบาททางการเมืองผ่านการติดสินบนซื้อนักการเมือง ซื้อพรรคการเมือง ซื้อข้าราชการซื้อกระบวนการยุติธรรม หรือแม้กระทั่งมีอิทธิพลเหนือรัฐบาลได้ และปรากฎการณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศละตินอเมริกา หรือแอฟริกาบางประเทศมาแล้ว 

โดยเฉพาะรัฐบาลละตินอเมริกาบางประเทศเคยตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติมาแล้ว จนถึงขั้นต้องมีการแทรกแซงทางการทหารโดยสหรัฐอเมริกา อย่างกรณีของเผด็จการทหาร นายพลมานูเอล นอริเอกา ที่ทำให้ปานามาเป็นศูนย์กลางสำหรับการฟอกเงินจากขบวนการยาเสพติดระหว่างประเทศ 

การที่สหรัฐอเมริกาก็ดี อังกฤษก็ดี เกาหลีใต้ก็ดี ได้เดินหน้าปราบปราม ขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติในกัมพูชา แก็งสแกมเมอร์ ขบวนการค้ามนุษย์และบังคับใช้แรงงานทาส มีการยึดทรัพย์และดำเนินการทางกฎหมายต่อกลุ่มนักธุรกิจสีเทาที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับกลุ่มผู้นำในกัมพูชาหรือเมียนมาก็ดี ย่อมเป็นโอกาสของประเทศไทยในจัดการเศรษฐกิจสีเทาฟอกเงินของเครือข่ายเหล่านี้ 

หากรัฐบาลนิ่งเฉยและไม่แสดงความกระตือรือร้นต่อการแก้ปัญหาเหล่านี้ ย่อมทำให้เกิดข้อสงสัยต่อสาธารณชนว่า กลุ่มการเมืองหรือกลุ่มข้าราชการ กลุ่มธุรกิจในไทยมีผลประโยชน์เกี่ยวพันกับธุรกิจผิดกฎหมายเหล่านี้หรือไม่ ได้รับประโยชน์จากกิจกรรมฟอกเงินหรือไม่ การปล่อยให้ปัญหาขยายวงโดยไม่เร่งแก้ปัญหาเชิงรุกจะนำมาสู่ความเสี่ยงอย่างมากต่อเศรษฐกิจและสังคมไทย รวมทั้ง ความไม่เป็นไปได้ในการถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจในอนาคต 

ประเทศไทยมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจจำนวนมากที่ไม่อยู่ภายใต้ระบบตลาดที่เป็นทางการ จึงทำให้รายได้และกิจกรรมทางเศรษฐกิจเหล่านี้ไม่ได้นับรวมอยู่ในระบรายได้ประชาชาติ กิจกรรมทางเศรษฐกิจเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่นอกจีดีพี ไม่ได้เอามาคำนวณในจีดีพี จีดีพีจึงมีความคลาดเคลื่อนอยู่ไม่น้อย ทำให้การวางแผนทางเศรษฐกิจไม่เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด นอกจากนี้องค์การแรงงานระหว่างประเทศยังพบว่า ไทยยังมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ไม่อยู่ภายใต้ระบบความคุ้มครองสภาพการทำงาน เป็นแรงงานนอกระบบที่ขาดหลักประกันในชีวิตและการคุ้มครองทางสังคม แรงงานเหล่านี้จะอยู่นอกระบบประกันสังคม 

นอกจากนี้ สังคมไทยยังมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจหรือกิจกรรมทางสังคมที่ไม่อยู่ภายใต้การอนุญาตของกฎหมาย เป็นเศรษฐกิจนอกกฎหมายจำนวนมากและในระยะหลัง กลุ่มจีนเทา กลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติจากเพื่อนบ้านได้เข้ามาฟอกเงิน ประกอบธุรกิจสีดำธุรกิจสีเทา ขยายกิจกรรมนอกกฎหมายหรือผิดกฎหมายตามแนวชายแดนไทย หรือ ในบางพื้นที่ของไทย เช่น ค้ายาเสพติด ค้าของเถื่อน ค้าสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ค้าแรงงานทาส ค้าบริการทางเพศและเปิดบ่อนการพนัน เป็นต้น รัฐบาลต้องมียุทธศาสตร์การจัดการเศรษฐกิจนอกระบบและนอกกฎหมายเหล่านี้ ลดสัดส่วนเศรษฐกิจใต้ดินลงด้วยการนำเศรษฐกิจใต้ดินมาอยู่ในระบบ จะได้เก็บภาษีและกำกับดูแลได้ง่ายขึ้น 

อย่างไรก็ดี สามารถจำแนกรายได้จากการประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ออกได้เป็น 4 ประเภท 

  • รายได้ที่อยู่ในตลาดอย่างเปิดเผยและได้มาอย่างถูกกฎหมาย ตรงนี้คือ รายได้จากเศรษฐกิจในระบบและเป็นไปตามกฎหมาย 
  • รายได้ที่อยู่ในตลาดอย่างเปิดเผยและถูกกฏหมายแต่ไม่ได้ถูกบันทึกหรือรายงานเอาไว้ เช่น กิจการที่มีขนาดเล็กมากๆ ร้านหาบแร่แผงลอย หรือ การทำกิจการเล็กๆน้อยๆในครัวเรือน เป็นต้น 
  • รายได้ที่ไม่อยู่ในรูปของตัวเงิน เป็นการแลกเปลี่ยนสิ่งของหรือแรงงานกันในระดับชุมชน 
  • รายได้ที่ได้มาจากเศรษฐกิจนอกระบบทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย เช่น การพนัน ค้าประเวณี และยาเสพติดนอกจากนี้ยังมีกิจการหรือธุรกิจที่ผิดกฎหมายแต่เป็นผลมาจากการไม่ได้รับความสะดวกจากระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่หรือไม่ได้รับความสะดวกตามกลไกของรัฐ เช่น รถรับจ้างเถื่อน รถโดยสารประจำทางเถื่อน เป็นต้น 

เศรษฐกิจนอกกฎหมายมักใช้เงินสดเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบ มูลค่าเศรษฐกิจนอกระบบรวมทั้งนอกกฎหมายของไทยมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 50% ของจีดีพี เป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจที่ใหญ่มากและติดลำดับต้นๆของโลก อย่างไรก็ตาม งานวิจัยส่วนใหญ่ที่ทำการศึกษามูลค่าเศรษฐกิจของเศรษฐกิจนอกระบบทำกันในช่วงทศวรรษ 2550 จึงจำเป็นต้องมีการประเมินมูลค่าเศรษฐกิจนอกระบบกันใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ล่าสุด ซึ่งคาดว่ามูลค่ายังคงเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในสถานการณ์ที่กลุ่มทุนจีนเทาได้เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยอย่างเป็นล่ำเป็นสัน กิจกรรมเศรษฐกิจนอกระบบ 6 กิจกรรมประกอบไปด้วย การค้ายาเสพติด การค้าอาวุธสงคราม การค้าน้ำมันเถื่อน การค้าประเวณี การค้าแรงงานข้ามชาติและการพนัน มีสัดส่วนประมาณ13% ของจีดีพี เศรษฐกิจนอกระบบและนอกกฎหมายมักมีขนาดใหญ่และขยายตัวในประเทศกำลังพัฒนามากกว่าในประเทศพัฒนาแล้ว ส่วนหนึ่งเพราะประเทศเหล่านี้มักมีการบังคับใช้กฎหมายอ่อนแอ มีการทุจริตคอร์รัปชันสูง มีติดสินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐมาก