ปปง.อายัด 70 ล้าน 'พัด สุภาภา' ปฏิบัติการตัดท่อน้ำเลี้ยงสแกมเมอร์ในไทย

เรื่องราวของการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติได้มาถึงจุดที่เข้มข้นอย่างยิ่ง เมื่อ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ของไทย ได้ก้าวเข้าสู่การดำเนินการครั้งสำคัญ ด้วยการ อายัดทรัพย์สินในประเทศไทยกว่า 70 ล้านบาท ของบุคคลผู้ทรงอิทธิพลระดับชาติของกัมพูชาอย่าง "ออกญา ลี ยงพัด" หรือที่คนไทยรู้จักในชื่อ เสี่ยพัด สุภาภา สมาชิกวุฒิสภาและนักธุรกิจใหญ่แห่งกัมพูชา 

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) เปิดเผยวันที่ 22 ต.ค.68 ถึงผลการประชุมด่วนที่ผู้บัญชาการตำรวจ(ผบ.ตร.) แห่งชาติเรียกประชุมวานนี้(21 ตุลาคม 2568) เพื่อดำเนินการตามปฏิบัติการของนายกรัฐมนตรีที่ได้มีการเรียกประชุมคณะอำนวยการปราบปรามอาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของรัฐบาล  

โดยยืนยันความคืบหน้าว่า ปปง. ได้ อายัดทรัพย์ พัด สุภาภา เฉพาะในประเทศไทยไปแล้วประมาณ 70 ล้านบาท โดยทางการไทยมีหลักฐานแน่ชัดว่าเขาเกี่ยวข้องกับเครือข่ายสแกมเมอร์ที่ใช้รีสอร์ทโอเสม็ดคาสิโนซึ่งตั้งอยู่ฝั่งกัมพูชา

การเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้นครั้งนี้ของทางการไทยรอบนี้ไม่ใช่เพียงการยึดทรัพย์ธรรมดา แต่เป็นการส่งสัญญาณอันหนักแน่นถึงเครือข่ายอำนาจที่ผูกพันกับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ข้ามชาติที่สร้างความเสียหายแสนล้าน

จากเด็กชายเกาะกง สู่ 'กระเป๋าเงิน' แห่งอำนาจ

ออกญา ลี ยงพัด (พัด สุภาภา) คือบุคคลที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับชนชั้นนำทางการเมืองของกัมพูชาอย่างยิ่ง เขาเกิดในปี พ.ศ. 2501 ที่จังหวัดเกาะกง ในครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีน

และได้ฉายาว่า "ราชาแห่งเกาะกง" จากความโดดเด่นและอิทธิพลในจังหวัดบ้านเกิด ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญบริเวณชายแดนติดกับจังหวัดตราดของไทย

พัด สุภาภา คือเจ้าของ บริษัท แอลวายพีกรุป (LYP Group) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ของกัมพูชา ธุรกิจของเขาครอบคลุมตั้งแต่การเกษตร พลังงาน ไปจนถึงการท่องเที่ยว เช่น กาสิโนและรีสอร์ท หลายแห่ง รวมถึง เกาะกง รีสอร์ท และ โอเสม็ดรีสอร์ต (O-Smach Resort)

สิ่งที่ทำให้อำนาจของเขายิ่งใหญ่ขึ้นคือความสัมพันธ์กับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา โดยงานวิจัยระบุว่า ฮุน เซน มีบทบาทในการออกนโยบายอนุญาตให้เปิดบ่อนกาสิโน และยังถูกนิยามว่า พัด สุภาภา คือ "กระเป๋าเงิน" ของฮุน เซนอีกด้วย ความใกล้ชิดนี้เองทำให้เขาได้รับตำแหน่ง "ออกญา" ซึ่งเป็นบรรดาศักดิ์สูงสุดของกัมพูชา

ที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินคดีในไทยคือ พัด สุภาภา เป็นบุคคลสองสัญชาติ เขามีชื่อไทยว่า พัด สุภาภา และยืนยันว่า มีบัตรประชาชนของประเทศไทย ความเป็นพลเมืองคู่กัมพูชา-ไทยนี้เองที่ช่วยให้เขาสามารถสร้างเครือข่ายทางธุรกิจข้ามพรมแดนได้อย่างราบรื่น

จุดแตกหัก: แรงงานทาสและการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ

การดำเนินการอายัดทรัพย์สินในไทยมีที่มาจากข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงในระดับนานาชาติ พัด สุภาภา ถูกระบุว่ามีชื่ออยู่ในเครือข่ายสแกมเมอร์ และธุรกิจรีสอร์ทของเขาถูกเชื่อมโยงกับการกระทำความผิดอาชญากรรมไซเบอร์

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โอเสม็ดรีสอร์ท ซึ่งอยู่ในเครือ L.Y.P. Group ถูกกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่าถูกใช้เป็นสถานที่ บังคับใช้แรงงานในการทำธุรกิจหลอกลวงออนไลน์ ค้ามนุษย์

รายงานระบุว่า ผู้เคราะห์ร้ายถูกหลอกมาทำงาน ถูกยึดหนังสือเดินทางและโทรศัพท์ ถูกทำร้ายร่างกายด้วยการช็อตไฟฟ้า และถูกบังคับจ่ายค่าไถ่

ด้วยเหตุนี้เอง สหรัฐอเมริกาจึงประกาศคว่ำบาตร ออกญา ลี ยงพัด และบริษัทในเครือ L.Y.P. Group ภายใต้กฎหมาย Global Magnitsky Act เมื่อเดือนกันยายน 2567 ฐานข้อหาเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และการละเมิดสิทธิมนุษยชน สหรัฐฯ

ระบุว่าองค์กรอาชญากรรมนี้เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย การคว่ำบาตรระดับโลกนี้เองที่เป็นชนวนสำคัญให้ทางการไทยต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินและทรัพย์สินของเขาในประเทศ

ปฏิบัติการไล่ล่าทรัพย์ 70 ล้าน และเดิมพันสัญชาติไทย

การอายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 70 ล้านบาท ในประเทศไทย โดย ปปง. จึงเป็นผลมาจากการสืบสวนอย่างเข้มข้น โดยนำข้อมูลจากทุกภาคส่วน อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร ฯ  

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ โฆษก ศปอส.ตร. ยืนยันว่า ปปง. ได้ อายัดทรัพย์ พัด สุภาภา เฉพาะในประเทศไทยไปแล้วประมาณ 70 ล้านบาท โดยทางการไทยมีหลักฐานแน่ชัดว่าเขาเกี่ยวข้องกับเครือข่ายสแกมเมอร์ที่ใช้รีสอร์ทโอเสม็ดคาสิโนซึ่งตั้งอยู่ฝั่งกัมพูชา

นอกจากนี้ การดำเนินการยังขยายไปถึงสถานะความเป็นคนไทยของเขาด้วย นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งการให้ตรวจสอบกรณีของบุคคลสองสัญชาติรายนี้ โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับเรื่องไปพิจารณา หากพบว่ามีความผิดก็จะมีการพิจารณาเพิกถอนสัญชาติไทยเป็นลำดับต่อไป