KEY
POINTS
พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) เปิดเผยถึงประเด็นเรื่องสแกมเมอร์ ว่า ตั้งแต่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเรียกประชุมคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรรมทางเทคโนโลยี เบื้องต้นมอบกระทรวงยุติธรรมรับผิดชอบเรื่องปราบปราม
โดยประชุมเบื้องต้นว่า ทุกกรณีที่เป็นข่าว จะตรวจสอบโดยให้นโยบาย อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ (DSI) ไปใช้อำนาจตามพ.ร.บ.คดีพิเศษ ตรวจสอบทางการข่าว ตั้งในรูปคณะกรรมการสืบสวนเบื้องต้น บูรณาการทุกส่วนทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ,ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อพิสูจน์ทราบ
หากพบเป็นความผิดก็มีอำนาจตามกฎหมายที่จะรับเป็นคดีพิเศษ ต่อไปนี้ทุกเคสทุกกรณีที่สื่อเปิดทั้งหมด ถ้ารับทราบ มีคกก.ตรวจสอบข่าว ลักษณะ ทราบแล้วตั้งคกก.สืบสวน ทุกประเด็นในคดีที่สำคัญ
ส่วนการตรวจสอบประเด็นนักการเมืองไทยที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายแสกมเมอร์กัมพูชานั้น พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวว่า ถูกต้องตอนนี้ดำเนินการในส่วนของนักการเมืองอะไรต่างๆ โดยเชื่อว่าถ้ามีพยานหลักฐานต่างๆ นายกฯดำเนินการแน่นอน ตอนนี้ยังไม่มีพยานหลักฐานอะไรที่ปรากฏ
“ฝากสื่อหากมีพยานหลักฐานต่างๆ ขอให้มอบได้เลย ยินดีที่จะปฏิบัติ เพราะเป็นภัยคุกคามกับพี่น้องประชาชน ตอนนี้ยังไม่มีรายชื่อนักการเมืองในมือดีเอสไอ”
ด้านการขยายผล การฟอกเงิน ยึดทรัพย์ เฉินจื้อ สแกมเมอร์กัมพูาที่มีทรัพย์ในไทย ปปง.ดำเนินการอย่างไรนั้น กรณีดังกล่าวนี้เป็นเคสแรก ที่ได้ให้นโยบายไปผ่านอธิบดีดีเอสไอ ใช้อำนาจกการสอบสวนคดีพิเศษสืบสวนประสานกับหน่วยงานทั้งในและนอกประเทศ อยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่นาน แต่เรื่องต่างๆ ละเอียดอ่อนและเป็นเรื่องระหว่างประเทศ ดีเอสไอยังไม่มีข้อมูลพิสูจน์ทราบที่ชัดเจน จะต้องถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ยืนยันว่ารูปแบบการดำเนินการต่อไปนี้จะเป็นลักษณะนี้ทั้งหมดจะเข้าคณะกรรมการสืบสวนทั้งหมด หากพบการกระทำผิดจะรับเป็นคดีพิเศษทั้งหมด
ขณะที่กรณี ส.ส.พรรคประชาชน เปิดประเด็น นักการเมืองไทยนั้น พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวว่า เรื่องนี้จะดำเนินการ ขอข้อมูลจากส.ส.ที่ให้ข่าวส่วนนี้ ไม่ตัดประเด็นถ้าให้ข่าวมามีนักการเมืองใดเกี่ยวข้องก็ไปขอข้อมูลเป็นเอกสาร เพื่อมาตอบสื่อว่าท่านที่พูดมีข้อมูลมากน้อยเพียงใดที่จะทำการสืบสวนต่อมากน้อยเพียงใดหรือไม่