‘วรภัค’ แถลงบ่ายนี้ แจงโดนใส่ร้ายโยงสแกมเมอร์ข้ามชาติ

22 ต.ค. 2568 | 04:13 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ต.ค. 2568 | 04:17 น.

‘วรภัค ธันยาวงษ์’ รมช.คลัง ตั้งโต๊ะแถลงบ่ายนี้ แจงปมโยงสแกมเมอร์ข้ามชาติ ลั่นโดนใส่ร้าย พาดพิงถึงภรรยา พร้อมเอาผิดตามกฎหมาย

นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า บ่ายวันนี้จะแถลงข่าวเรื่องที่ผมโดนใส่ร้ายป้ายสี โดยระบุว่า รัฐบาลนี้มีเวลาในการทำงานน้อยมากครับแต่เราพยายามทุ่มเทกันเต็มที่เมื่อวานนี้ นโยบายที่เกี่ยวข้องกับ เสาหลักแรกที่ ที่มีสี่หมุดหมายหลักตามที่ แถลงในนโยบายเศรษฐกิจต่อรัฐสภา ได้รับการอนุมัติจาก ครม เรียบร้อยแล้ว เสาหลักที่เหลือกำลังตามมาเป็นรายอาทิตย์

อาทิตย์ที่แล้วผมก็ไปประชุมงานประจำปีของธนาคาร  World Bank IMF ที่กรุงวอชิงตันดีซีมา แต่ละวันมีประชุมทั้งพหุภาคีและทวิภาคีเต็มตลอดวัน  และที่สำคัญต้องหารือเตรียมงานที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมงานประจำปีของ World Bank IMF ซึ่งเป็นงานใหญ่ยักษ์ในเดือนตุลาคมของปี 2569 

ผมพึ่งเดินทางกลับมาจากสหรัฐ เมื่อวันอาทิตย์นี้ ใช้เวลาส่วนใหญ่ขับเคลื่อนผลักดันเรื่องงานเป็นหลักครับเลยทำให้การชี้แจงข้อเท็จจริงส่วนตัวล่าช้าไปหน่อยในเรื่องที่มีขบวนการถ่วงความเจริญของประเทศชาติพยายามดิสเครดิตรัฐบาลโดย ใส่ร้ายป้ายสีว่าผมอยู่ในกระบวนการ scammers ข้ามชาติ ล่าสุดมาพาดพิงถึงภรรยากล่าวหาว่ารับสินบนเป็นคริปโตซึ่งภรรยาผมยังไม่เคยเกี่ยวข้องอะไรใดใดไม่เคยมีบัญชีคริปโตใดใดทั้งสิ้น 

นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

วันนี้หลังจาก ช่วยกับท่านเอกนิติขับเคลื่อนผลักดันนโยบายในเสาหลักแรกผ่านการอนุมัติของ ครม เรียบร้อยแล้วบ่ายนี้ผมจะมีการแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงที่กระทรวงการคลังครับทีมโฆษกกระทรวงได้นัดหมายนักข่าวไว้เรียบร้อยแล้ว  และจะเริ่มดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการใส่ร้ายป้ายสีบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่   น่าเสียดายที่บางคนเป็นนักวิชาการอิสระที่ผมเคยชื่นชมแต่ในปัจจุบันมีอคติในทางการเมืองและพยายามจะเขียนข่าวแบบเอามัน เลยมองภาพทุกอย่างแบบมีอคติ  ผมพยายามแผ่เมตตาให้แล้วแต่ยังไม่ค่อยเป็นผล คงต้องสวดบทพาหุงมหากาคือบทปราบมารของพระพุทธเจ้าเสริม 

อย่างไรก็ตาม เพื่อนเพื่อนพี่พี่น้องน้องทุกท่านที่เคยร่วมงานกับผมในทุกองค์กรน่าจะยืนยันได้ว่าผมเป็นคนอย่างไร ทำงานอย่างไร ถึงแม้ผมเกษียณจากงานประจำมาหลายปีแล้ววันนี้ไปที่ไหนเจอลูกน้องเก่าลูกค้าเก่าเก่าไม่มีใครเมินหน้าเดินหนี ทุกคนยังเข้ามาทักทาย โอภาปราสัยเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมามีกัลยาณมิตรหลายวงการส่งข้อความมาให้กำลังใจผมทั้งเพื่อนเพื่อนพี่พี่น้องน้องในวงการการเงินการธนาคารรวมทั้งน้องน้องนักข่าวที่รู้จักผมดีอีกหลายหลายคน 

สุดท้ายนี้ผมต้องขอขอบคุณผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ทีมงานสาขาธนาคารกรุงไทยและทีมงานสายเทคโนโลยีของธนาคารกรุงไทยทุกท่านที่ทุ่มเทสุดตัวในการช่วยรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ให้ติดลมจากนโยบายโครงการคนละครึ่งพลัส  

ผมติดตามข่าวในรายละเอียดและทราบว่าทุกสาขาทำงานกันหนักมากๆๆๆ เนื่องจากโครงการคนละครึ่งครั้งสุดท้ายจบไปแล้ว ตั้งแต่ปี 2565 ในช่วงสามปีที่ผ่านมาผู้มีสิทธิ์หลายท่านมีการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือถึง 460,000 เลขหมายและมีอีกหลายท่านที่จำรหัสไม่ได้อีกประมาณ 450,000 ราย ซึ่งอย่างน้อยผู้มีสิทธิ์เหล่านี้ต้องไปติดต่อขอความช่วยเหลือเพื่อยืนยันตัวตนจากสาขาธนาคารกรุงไทยซึ่งทั่วประเทศมีเพียง 980 สาขานั่นเท่ากับแต่ละสาขาต้องรองรับปริมาณผู้มายืนยันตัวตนถึง 900 คนต่อหนึ่งสาขา