KEY
POINTS
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการเร่งกระจายเงิน 475 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินผลผระโยน์พิเศษจากเหมืองสู่ 130 ชุมชน เพื่อยกระดับเหมืองคู่ชุมชน
ทั้งนี้ การการจัดสรรเงินผลประโยชน์พิเศษแก่รัฐให้แก่ชุมชนต่าง ๆดังกล่าวเป็นสวิตช์เร่งด่วนที่สะท้อนเป้าหมายการทำงานให้เห็นผลใน 120 วัน แก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง
โดยต้องการยกระดับมาตรฐานเหมืองให้เดินคู่กับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่เพื่อให้ชุมชนรู้สึกได้จริงว่ามีการจัดสรรผลประโยชน์คืนกลับสู่แหล่งกำเนิดแร่ ให้เหมืองแร่มีส่วนร่วมดูแลและพัฒนาชุมชนได้อย่างยั่งยืน
เป็นการคืนผลประโยชน์ตรงให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผ่านกรอบกฎหมายที่ชัดเจนและตรวจสอบได้ ซึ่งเงินทุกบาทจะถูกใช้เพื่อการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม และก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่สัมผัสได้ในพื้นที่
จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า อุตสาหกรรมเหมืองแร่เป็นซัพพลายเชนต้นน้ำของอุตสาหกรรมไทย เม็ดเงินผลประโยชน์พิเศษฯ ตั้งแต่ที่เริ่มจัดเก็บ ในปี 2562 สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการวัตถุดิบของภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในกลุ่มพลังงานสะอาด โครงสร้างพื้นฐาน
และอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลผลักดัน รายได้นี้จึงไม่ใช่แค่ตัวเลขในงบประมาณ แต่คือเงินหมุนเวียนที่กลับสู่ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรมตามแนวนโยบายที่ภาคอุตสาหกรรมต้องเป็นที่พึ่งพาได้
นายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา กพร. จัดสรรเงินผลประโยชน์พิเศษแก่รัฐไปแล้วกว่า 525 ล้านบาท ครอบคลุม 187 ชุมชน เพื่อนำไปใช้ยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา สาธารณสุข และกิจกรรมสร้างรายได้ของชุมชน
โดยในปีนี้ กพร. จัดสรรเงินครอบคลุม 130 ชุมชน ใน 43 จังหวัด วงเงินรวม 457 ล้านบาท และในปีถัดไปตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะจัดสรรเงินให้ท้องถิ่น ปีละไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท ควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการกำกับดูแล ตรวจสอบ เพื่อความรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม
“กพร. มุ่งพัฒนากลไกการอนุญาต กำกับดูแล และจัดสรรเงินผลประโยชน์พิเศษแก่รัฐให้กับชุมชนในพื้นที่อย่างเป็นธรรมและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยจะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการตรวจสอบข้อมูล รวมถึงผลักดันให้ผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม“