กระทรวงการคลัง รายงานว่า โครงการคนละครึ่ง พลัส (โครงการฯ) จะมีการเปิดลงทะเบียนผู้ประกอบการร้านค้าในวันพรุ่งนี้เป็นวันแรก (วันพุธที่ 15 ตุลาคม 2568) จนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 โดยมีรายละเอียดประเภทร้านค้า และการลงทะเบียนร้านค้า ดังนี้
1.1 เป็นผู้ประกอบการร้านค้าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป ที่มีสัญชาติไทย (ผู้ประกอบการร้านค้าฯ) ดังนี้
ทั้งนี้ ต้องไม่เป็นร้านค้าที่มีลักษณะเป็นร้านสะดวกซื้อที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ และต้องมีการประกอบการที่สามารถตรวจสอบได้
1.2 เป็นผู้ประกอบการบริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม ที่มีสัญชาติไทย (ผู้ประกอบการบริการฯ) ดังนี้
ทั้งนี้ ต้องมีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่งและตรวจสอบได้ และกรณีเป็นผู้ประกอบการบริการนวด สปา จะต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
1.3. เป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะ ที่มีสัญชาติไทยและไม่ใช่นิติบุคคล (ผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะฯ) ดังนี้
1.4 เป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะ ได้แก่ รถไฟฟ้าในเขตเมือง รถไฟ รถโดยสารประจำทางสาธารณะ และเรือโดยสารสาธารณะ (ผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะฯ)
1.5 เป็นนิติบุคคลขนาดเล็ก เฉพาะที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 68 และงบการเงินตามมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร (ภ.ง.ด. 50)
สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 2567 ซึ่งขายอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป หรือให้บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม และให้บริการขนส่งสาธารณะ โดยมีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท ตามฐานข้อมูลของกรมสรรพากร ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 ทั้งนี้ ผู้ให้บริการนวด สปา หรือผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะจะต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
1.6 ร้านค้าจะต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกสำนักงานเศรษฐกิจการคลังระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 1 - 5
2.1 กรณีเป็นผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน”
2.2 กรณีเป็นผู้ประกอบการร้านค้าฯ ผู้ประกอบการบริการฯ หรือผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะฯ นอกเหนือจากที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านสาขาของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธ. กรุงไทยฯ)
2.3 กรณีเป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะฯ นอกเหนือจากที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ด้วยการเปิดใช้งานแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” โดยตรงกับ ธ. กรุงไทยฯ
ทั้งนี้ กรณีผู้ประกอบการตามข้อ 2.1 และข้อ 2.2 หากไม่ปรากฏข้อมูลการประกอบกิจการของผู้ประกอบการดังกล่าวในฐานข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐ (ไม่มีแบนเนอร์ “คนละครึ่ง พลัส” ขึ้นแสดงในแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน”) จะต้องได้รับการยืนยันว่าร้านค้ามีการประกอบกิจการจริงจากเจ้าหน้าที่ที่กระทรวงมหาดไทยหรือกรุงเทพมหานครมอบหมาย แล้วแต่กรณี ก่อน จึงนำใบสมัครไปยื่นผ่านสาขา ธ. กรุงไทยฯ