คลังรับนโยบาย ‘เอกนิติ’ ลุยปฏิรูปภาษี รื้อลดหย่อนภาษีเงินได้

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังจากการดำเนินการตามแผน Quick Big Win ของรัฐบาลเสร็จสิ้นแล้ว คณะทำงานเพื่อปฏิรูปภาษี จะลงมาทำในเรื่องของรายได้รัฐบาลอย่างจริงจัง โดยจะวางไทม์ไลน์แผนปฎิรูปภาษีในแต่ละเรื่องว่าควรจะออกมาในช่วงเวลาใดบ้างที่เหมาะสม

ทั้งนี้ หนึ่งในแผนปฏิรูปภาษีดังกล่าว คือ การปรับปรุงค่าลดหย่อนทางภาษี ตามนโยบายของนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งในปัจจุบัน ค่าลดหย่อนทางภาษีที่กรมสรรพากรให้กับผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้นมีหลายรายการ เม็ดเงินรวมกันทุกรายการกว่า 1 ล้านบาท โดยค่าลดหย่อนเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กรมสรรพากรจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น

“การปรับปรุงค่าลดหย่อนจะทำให้เราเก็บภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น แต่ต้องแลกกัน เพราะค่าลดหย่อนมากับการส่งเสริมบางเรื่อง โดยใช้แรงจูงใจให้หักค่าลดหย่อนได้”

ส่วนผลการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2568 ที่สิ้นสุดไปแล้วเมื่อ 30 กันยายนนั้น ต่ำกว่าเป้าหมายน้อยกว่าที่คิด จากเดิมที่ตนคาดว่สจะต่ำกว่าเป้าหมายเป็นแสนล้านบาท แต่ผลเบื้องต้น คาดว่าจะต่ำกว่าเป้าหมายน้อยกว่านั้นมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเลิกลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา ทำให้รายได้ภาษีสรรพสามิต กับคืนรัฐ ลิตรละเกือบ 6 บาท 

“กรมจัดเก็บพยายามจนถึงวันสุดท้าย ลบไม่เป็นไร แต่ขอให้พยายามให้ลบน้อยที่สุด ส่วนเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2569 ที่เริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคมนี้ รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้ที่ 2.92 ล้านล้านบาท สูงกว่าปีงบประมาณปี 2568 เพียง 1.2 %  ซึ่งคิดว่าอยู่ในวิสัยที่ทำได้“ 

ทั้งนี้ ในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม ถึงสิงหาคม) รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้ได้สุทธิ 2.504 ล้านล้านบาท สูงกว่าปีที่แล้ว 4.68 หมื่นล้านบาท หรือ 1.9 % แต่ต่ำกว่าเป้าหมาย 3.4 หมื่นล้านบาท หรือ 1.3 %  สาเหตุสำคัญมาจากภาษีสรรพสามิตรถยนต์ที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย จากการที่คนหันมาใช้รถ EV มากขึ้นที่มีอัตราภาษีที่ต่ำกว่ารถสันดาป รวมถึงการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากสินค้านำเข้าที่ทำได้ต่ำกว่าเป้าหมาย