รัฐบาลชี้ 'คนละครึ่งพลัส' เห็นสัญญาณความเชื่อมั่นเศรษฐกิจดี ดัน Q4 บวก

10 ต.ค. 2568 | 02:50 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ต.ค. 2568 | 02:54 น.

โฆษกรัฐบาล ชี้ 'คนละครึ่งพลัส' พ่วงหลายมาตรการ Quick Big Win คามนโยบาย เริ่ เห็นสัญญาณความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ปรับตัวดีขึ้น คาดเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตเชิงบวก

KEY

POINTS

  • รัฐบาลชี้โครงการ 'คนละครึ่งพลัส' และภาคการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ
  • ดัชนีความเชื่อมั่นต่างๆ ทั้งของผู้บริโภคและนักลงทุนปรับตัวสูงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ
  • รัฐบาลคาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของปี (Q4) เติบโตเป็นบวก

วันนี้ (10 ตุลาคม 2568) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สัญญาณความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ปรับตัวดีขึ้นในหลายจุด จากทัศนคติเชิงบวกของประชาชนต่อการปรับเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการ "คนละครึ่งพลัส" และภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัว ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศและสนับสนุนธุรกิจภาคการค้าและบริการ เชื่อจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม 

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคต (3 เดือนข้างหน้า) ปรับตัวเพิ่มขึ้น อยู่ที่ระดับ 56.0 ซึ่งสอดคล้องกับ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ได้เปิดเผย ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เดือนกันยายน 2568 อยู่ที่ 50.7 ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ 44.4 

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 59.3 ซึ่งดัชนีความเชื่อมั่นฯ ทุกรายการปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือนเช่นเดียวกัน โดยปัจจัยบวกสำคัญมาจากการเมืองในประเทศเริ่มมีความชัดเจนขึ้น หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งหนุนความเชื่อมั่น บรรยากาศการลงทุน และภาวะเศรษฐกิจโดยรวม

ด้าน สภาธุรกิจตลาดทุนไทยก็ได้ สำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ในเดือนกันยายน 2568 พบว่าอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” ในอีก 3 เดือนข้างหน้า (ธันวาคม 2568) โดยนักลงทุนมองว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด 

ขณะที่ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทยก็เห็นว่า การสานต่อนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบันสร้างความต่อเนื่องทางเศรษฐกิจ เช่น จาก โครงการคนละครึ่ง ต่อยอดสู่ “โครงการคนละครึ่ง พลัส” การออมเพื่อการเกษียณอายุ และหวยออมทรัพย์ เป็นต้น

"นายกฯ ได้กำชับทุกกระทรวง โดยเฉพาะกระทรวงเศรษฐกิจที่ต้องเร่งเดินหน้ามาตรการ Quick Big Win ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมภายใน 4 เดือนข้างหน้า กระตุ้นโมเมนตัม จุดติดเครื่องยนต์เศรษฐกิจ พลิกฟื้นบรรยากาศการค้า และการลงทุน ทำให้ประชาชนพร้อมจะกลับมาจับจ่ายใช้สอยในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ แม้จะเป็นมาตรการระยะสั้น แต่เชื่อว่าจะส่งต่อเนื่องในระยะยาวอีกด้วย” นายสิริพงศ์ ระบุ