‘ธนกร’ เชื่อ ‘คนละครึ่งพลัส’ โดนใจประชาชน-กระตุ้นเศรษฐกิจ

09 ต.ค. 2568 | 00:19 น.

‘ธนกร’ ชี้นโยบาย ‘คนละครึ่งพลัส’ โดนใจประชาชน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังเคยมีส่วนสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศหลังสถานการณ์โควิด-19

KEY

POINTS

  • คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการ "คนละครึ่งพลัส" ด้วยวงเงินงบประมาณไม่เกิน 44,000 ล้านบาท
  • โครงการมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน รักษาระดับการบริโภคในประเทศ และเพิ่มสภาพคล่องให้ร้านค้ารายย่อย
  • นายธนกรเชื่อมั่นว่าโครงการจะเป็นที่ถูกใจประชาชน เนื่องจากต่อยอดจากโครงการเดิมที่เคยประสบความสำเร็จและช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการคนละครึ่งพลัส วงเงินงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ จำนวนไม่เกิน 44,000 ล้านบาท ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีแนวคิดที่จะดำเนินโครงการคนละครึ่งพลัสเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนที่มีกำลังซื้อ ช่วยรักษาระดับการบริโภคในประเทศ และเพิ่มสภาพคล่องให้กับร้านค้ารายย่อยต่างๆ 

ทั้งนี้ เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการตัดสินใจที่ถูกใจประชาชนอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาโครงการคนละครึ่งได้รับการชื่นชมจากประชาชนอย่างมาก เกิดการจับจ่ายใช้สอย 

ส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยฟื้นเศรษฐกิจของประเทศหลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จนทั่วโลกให้การยอมรับมาแล้ว 

อย่างไรก็ดี ล่าสุดได้มอบนโยบายแก่บุคลากร ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) สาขา นครศรีธรรมราช โดยระบุว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงทั้งด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และทรัพยากรธรรมชาติ เป็นศูนย์กลางของภาคใต้ตอนบนที่มีฐานเศรษฐกิจแข็งแกร่ง ทั้งเกษตรกรรม การแปรรูปสินค้าเกษตร และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม รวมถึงเป็นแหล่งพลังงานชีวมวล และอุตสาหกรรมอาหารที่สำคัญของประเทศ ซึ่งสามารถต่อยอดสู่ตลาดระดับประเทศและตลาดโลกได้ 

หากได้รับการสนับสนุนด้านทุน ความรู้ และเทคโนโลยีที่เหมาะสม ทั้งนี้ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

รัฐบาลและกระทรวงอุตสาหกรรมจึงกำหนดการดำเนินงานภายใต้นโยบาย ฝ่า ฟัน ดึง ดัน SME D Bank จึงต้องทำหน้าที่เป็นทั้ง คู่คิดและคู่พัฒนาเพื่อให้เอสเอ็มอีไทยสามารถยืนได้ด้วยตนเองอย่างมั่นคง