เคาะแผนการบริหารหนี้ฯ ปี 69 ไฟเขียวรัฐบาลก่อหนี้ใหม่ 1.2 ล้านล้าน

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2569 ตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ เสนอ ประกอบด้วย แผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงินรวม 1,207,306.75 ล้านบาท แผนการบริหารหนี้เดิม วงเงินรวม 1,876,915.14 ล้านบาท และแผนการชำระหนี้ วงเงินรวม 503,056.95 ล้านบาท

สำหรับแผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงินรวม 1,207,306.75 ล้านบาทนั้น จะเป็นการกู้เงินทั้งในประเทศและต่างประเทศ แยกเป็น การก่อหนี้ใหม่ของรัฐบาล 1,116,482.53 ล้านบาท การก่อหนี้ใหม่ของรัฐวิสาหกิจ 89,952.88 ล้านบาท และการก่อหนี้ใหม่ของหน่วยงานอื่นของรัฐ 871.34 ล้านบาท

พร้อมทั้งอนุมัติให้รัฐวิสาหกิจ จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) สัดส่วน DSCR ต่ำกว่า 1 เท่า สามารถกู้เงินและบริหารหนี้ภายใต้แผนฯ ประจำปีงบประมาณ 2569

โดยให้รัฐวิสาหกิจทั้ง 4 แห่งดังกล่าวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะกรรมการฯ ไปดำเนินการด้วย รวมทั้งเห็นควรให้หน่วยงานที่บรรจุกรอบวงเงินกู้ภายใต้แผนฯ ประจำปีงบประมาณ 2569 เร่งรัดการดำเนินการตามแผนฯ ดังกล่าวด้วย

ขณะเดียวกันยังรับทราบแผนความต้องการเงินกู้ระยะปานกลาง 5 ปี (ปีงบประมาณ 2569 -2573) เพื่อใช้เป็นกรอบในการบริหารหนี้สาธารณะระยะปานกลาง โดยมีโครงการลงทุนรวม 141 โครงการ มีวงเงินลงทุนรวม 710,603.95 ล้านบาท

ทั้งนี้ยังมอบหมายให้กระทรวงเจ้าสังกัดประสานงานกับรัฐวิสาหกิจที่เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการในกลุ่มโครงการที่ยังขาดความพร้อมในการดำเนินการ เพื่อเร่งรัดการดำเนินการและการลงทุนเพื่อเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐในระยะต่อไป

นอกจากนี้ ครม. ยังอนุมัติการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อการก่อหนี้ใหม่ การกู้มาและการนำไปให้กู้ต่อ การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ และการค้ำประกันเงินกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจ ตามมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะฯ มาตรา 7 แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 

รวมถึงจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2541 มาตรา 7 แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง พ.ศ. 2545 

รวมทั้งขออนุมัติการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจเพื่อลงทุนในโครงการพัฒนา และการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ภายใต้กรอบวงเงินของแผนฯ ประจำปีงบประมาณ 2569 และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน การค้ำประกันและการบริหารความเสี่ยงในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น 

ทั้งนี้ หากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เอง ก็ให้สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ ต่อไป

สำหรับแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2569 จะสนับสนุนให้รัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐสามารถดำเนินการกู้เงินเพื่อใช้ในการลงทุน การดำเนินกิจการ และการบริหารสภาพคล่องได้ตามความจำเป็นภายใต้กรอบวงเงินที่บรรจุในแผนการบริหารหนี้สาธารณะฯ ด้วย