ครม. 'อนุทิน' อนุมัติงบ 3.6 หมื่นล้าน ล้างหนี้ ธ.ก.ส. 4 โครงการรัฐบาลเก่า

01 ต.ค. 2568 | 02:11 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ต.ค. 2568 | 02:30 น.

ครม.อนุมัติงบกลาง ปี 2568 จำนวน 35,960 ล้านบาท ล้างหนี้ 4 โครงการรัฐบาลเก่า ทั้งข้าว มันสำปะหลัง และชาวสวนยาง เติมสภาพคล่อง ธ.ก.ส. มีเงินหมุนเวียนช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรโครงการใหม่

KEY

POINTS

  • คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบกลางปี 2568 วงเงิน 35,960 ล้านบาท เพื่อชำระหนี้ที่รัฐบาลค้างจ่ายคืนให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
  • หนี้ดังกล่าวเกิดจากการที่ ธ.ก.ส. สำรองจ่ายเงินใน 4 โครงการช่วยเหลือเกษตรกรในอดีต ซึ่งเกี่ยวข้องกับพืชเกษตร ทั้ง มันสำปะหลัง ยางพารา และข้าว
  • การชำระหนี้จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ ธ.ก.ส. ทำให้มีเงินทุนหมุนเวียนสำหรับปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนได้มากขึ้น

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่เหลืออยู่เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 35,960 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการลดยอดลูกหนี้รอการชดเชยของรัฐบาลให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยเบิกจ่ายในงบรายจ่ายอื่น

ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ ธ.ก.ส. มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นและสามารถมีเงินหมุนเวียนในการให้ความช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจต่อไป

สำหรับการขอรับจัดสรรงบกลาง วงเงิน 35,960 ล้านบาท ครั้งนี้ ที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้มีบันทึก ด่วนที่สุด ลงวันที่ 26 กันยายน 2568 ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เรื่อง ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น

โดยแจ้งว่า จากการที่ ธ.ก.ส. ได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ ประกอบด้วย

  1. โครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังปี 2554/55 
  2. โครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังปี 2555/56
  3. โครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง พ.ศ. 2561 – 2562
  4. มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าวปีการผลิต 2560/61 ด้านการตลาด 

การดำเนินโครงการทั้งหมด พบว่า ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ธ.ก.ส. มียอดลูกหนี้รอการชดเชยของรัฐบาลคงเหลือจากการดำเนินการทั้ง 4 โครงการดังกล่าว เป็นจำนวนเงินรวม 40,421 ล้านบาท ธ.ก.ส. จึงมีความเห็นว่า เพื่อเป็นการรองรับโครงการช่วยเหลือตามมาตรการต่าง ๆ ตามนโยบายของรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นต่อไป และไม่ให้เป็นภาระของรัฐบาลในการจัดสรรงบประมาณ ธ.ก.ส. จึงเห็นควรขออนุมัติการจัดสรรงบกลางฯ ปี 2568 จำนวน 35,960 ล้านบาท เพื่อนำไปลดยอดลูกหนี้รอการขดเชยของรัฐบาลสำหรับโครงการดังกล่าวข้างต้น

ต่อมากระทรวงการคลัง ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 29 กันยายน 2568 ถึงผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เพื่อขอให้นำกราบเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อโปรดพิจารณาให้ความเห็นชอบการจัดสรรงบกลางฯ ปี 2568 สำหรับใช้ลดยอดลูกหนี้รอการขดเชยของรัฐบาลทั้งหมด เป็นจำนวนเงินรวม 35,960 ล้านบาท

จนล่าสุด สำนักงบประมาณ ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 30 กันยายน 2568 ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แจ้งว่า นายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้กระทรวงการคลัง โดย ธ.ก.ส. ใช้จ่ายจากงบงบกลางฯ ปี 2568 จำนวน 35,960 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการลดยอดลูกหนี้รอการขดเชยของรัฐบาลให้แก่ ธ.ก.ส. โดยเบิกจ่ายในงบรายจ่ายอื่น 

ดังนั้น กระทรวงการคลัง จึงจัดทำรายละเอียดเข้ามาเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาการขอรับจัดสรรงบกลางฯ ปี 2568 จำนวน 35,960 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อย

ทั้งนี้หลังจากครม.พิจารณาอนุมัติงบงบกลางให้แก่ ธ.ก.ส. แล้ว ให้สำนักงบประมาณอนุมัติเงินจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ไปยัง ธ.ก.ส. โดยสอดคล้องกับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ตามที่กำหนดในระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. 2562 ต่อไป