‘เอกนิติ’ สั่งปลัดคลังตั้งทีมด่วน ตรวจสอบ ‘เงินทุนไหลเข้าปริศนา‘

22 ก.ย. 2568 | 06:20 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ก.ย. 2568 | 07:02 น.

‘เอกนิติ’ รองนายกฯ และรมว.คลัง สั่งปลัดคลังตั้งทีมด่วน หาที่มา ‘เงินไหลเข้าปริศนา‘ เริ่มทำงานทันทีหลังถวายสัตย์แล้ว

กรณีมีเงินทุนปริศนาไหลเข้าประเทศไทยจำนวนมาก ซึ่งถูกจับตาเป็นเงินสีเทา ล่าสุดนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า  ได้สั่งการกระทรวงการคลัง ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย ทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.),สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และหน่วยงานต่างๆ 

“ปลัดกระทรวงการคลังได้ตั้งทีมมาศึกษาเรื่องนี้แล้ว เพื่อตอบโจทย์การเชื่อมโยงข้อมูลให้เห็นว่า ตกลงเงินมาจากตรงไหน จะได้เกาให้ถูกที่คันแก้ปัญหาให้ตรงจุด โดยหลังจากที่ถวายสัตย์และมีการแถลงนโยบายเสร็จก็จะดำเนินการเรื่องนี้ทันที”นายเอกนิติกล่าว

ทั้งนี้จากตัวเลขดุลการชำระเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่าค่าความคลาดเคลื่อนสุทธิ (Net Errors and Omissions หรือ NEO) ในดุลการชำระเงินของไทย เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ โดยตัวเลขในปี 2564 อยู่ที่ 340,290.37 ล้านบาท ก่อนจะลดลงเป็นลบในปี 2565 ที่ -2,528.18 ล้านบาท

 แต่ในปี 2566 ตัวเลขกลับพุ่งสูงขึ้นมาอีกครั้งที่ 180,404.36 ล้านบาท และในปี 2567 พุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจถึง 530,855.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า 

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  

ขณะที่ในไตรมาสแรกของปี 2568 ค่า NEO อยู่ที่ 80,909.45 ล้านบาท หากคำนวณแบบปีเต็มด้วยอัตราเดียวกัน อาจหมายถึงค่า NEO ในปี 2568 จะสูงถึงประมาณ 323,637.8 ล้านบาท

 ตามทฤษฎีดุลการชำระเงิน ดุลการชำระเงินจะต้องเท่ากับผลรวมของดุลบัญชีเดินสะพัดและดุลบัญชีเงินทุนเสมอ เนื่องจากเป็นระบบการบันทึกแบบสองด้าน (double-entry bookkeeping) ที่ต้องมีทั้งรายการ “รับ” และ “จ่าย” ให้สมดุลกัน แต่ในโลกของความเป็นจริง การเก็บข้อมูลไม่สามารถครอบคลุมได้ทุกธุรกรรมอย่างสมบูรณ์และทันเวลา จึงเกิดความแตกต่างที่เรียกว่า “ค่าความคลาดเคลื่อนสุทธิ” ขึ้นมา

ด้านนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า สมาคมธนาคารไทย ได้มีการพูดถึงประเด็นนี้แล้ว และได้กราบเรียนท่านนายกฯ แล้ว โดยสิ่งที่ต้องเร่งทำ ก็คือการ Connect the dots  ซึ่งการขับเคลื่อนของเงินทุนในรูปแบบต่างๆ ต้องผ่านหลายกลไกในระบบตลาด ทั้งตลาดเงิน ตลาดทุน ตลาดทั่วไป และตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ที่เป็นทั้งระบบธนาคารและไม่ใช่ระบบธนาคารไปจนถึงการเคลื่อนย้ายเงินทุน 

“กิจกรรมทั้งหมดนี้อยู่ระหว่างการเชื่อมโยงข้อมูล ซึ่งล่าสุด ทางธปท. กับทาง ปปง. กำลังเร่งดำเนินการอยู่ในขณะนี้”