4 เดือนพิสูจน์! รัฐบาลอนุทิน 'สภาองค์การนายจ้าง' จี้โชว์ฝีมือแก้ปากท้อง

18 ก.ย. 2568 | 05:59 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ก.ย. 2568 | 06:08 น.

"เอกสิทธิ์' ประธานสภาองค์การนายจ้าง หวังรัฐบาลอนุทิน ต้องทำงานเร็วและเก่งในเวลาจำกัด 4 เดือน ฝากเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องประชาชน ควบคู่แก้รัฐธรรมนูญ

KEY

POINTS

  • สภาองค์การนายจ้างฯ มองว่ารัฐบาลชุดใหม่มีภาพลักษณ์ดีจากการดึงผู้มีประสบการณ์ภาคธุรกิจร่วมทีมเศรษฐกิจ แต่ท้าทายด้วยเวลาทำงานเพียง 4 เดือน ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหา
  • เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาปากท้องและเศรษฐกิจของประชาชนเป็นวาระเร่งด่วนที่สุด และต้องแสดงฝีมือให้เห็นผลงานโดยเร็ว
  • เสนอให้ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น แต่ยังกังวลว่าเวลาที่จำกัดอาจทำให้ดำเนินการไม่ทันการณ์

นายเอกสิทธ์ คุณานันทกุล ประธานสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย (ECOT)  เปิดเผยมุมมองถึงภาพลักษณ์ของคณะรัฐมนตรี(ครม.)ใหม่ ในรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่า มีการเชิญคนนอกเข้ามาเสริมโดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ และประสบความสำเร็จในภาคธุรกิจมาหลายท่าน ซึ่งถือว่าหน้าตาภาพลักษณ์ดูดี เชื่อว่าจะเป็นความหวังทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้

แต่เนื่องจากรัฐบาลได้ทำสัญญาไว้ว่าจะอยู่ในตำแหน่ง 4 เดือน การแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้พี่น้องประชาชนก็จะค่อนข้างลำบาก แม้ว่ารัฐมนตรีใน ครม.จะเก่งแค่ไหนแต่ในระยะเวลาแค่ 4 เดือนยังทำอะไรไม่ได้

ซึ่งหลายคนมีความรู้ความสามารถด้านธุรกิจ แต่ไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองและไม่เคยบริหารราชการ ไม่ได้ทำงานกับข้าราชการประจำมาก่อน เพราะการทำงานภาครัฐไม่เหมือนภาคเอกชน ถือเป็นเรื่องท้าทายที่ต้องให้เวลาพิสูจน์

"หลายปีที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนประสบกับปัญหาเศรษฐกิจมามากแล้ว ฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่ให้ช่วยดูแลแก้ปัญหาปากท้องเศรษฐกิจของประเทศเป็นเรื่องเร่งด่วน หากมีเวลา 4 เดือน รัฐบาลทำให้สภาวะเศรษฐกิจดีขึ้นก็ถือว่าดีใจมากแล้ว” นายเอกสิทธ์ กล่าว

นายเอกสิทธ์ คุณานันทกุล ประธานสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย (ECOT) 

ส่วนข้อกังวลเรื่องเสถียรภาพรัฐบาลเสียงข้างน้อยจะมีผลกระทบต่อการบริหารประเทศหรือไม่นั้น นายเอกสิทธิ์ กล่าวว่า  รัฐบาลเสียงข้างน้อยถือว่ามีข้อดีเพราะ รัฐบาลและรัฐมนตรีทุกคน ต้องทำงานอย่างเต็มที่จะปล่อยปละละเลยหรือจะมาทำงานเช้าชามเย็นชามไม่ได้เพราะเวลาน้อยต้องอาศัยเสียงฝ่ายค้านและฟังเสียงประชาชน แต่ถ้ามีเรื่องใดที่ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยและประชาชนคัดค้านรัฐบาลก็อยู่ต่อไม่ได้ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องโชว์ฝีมือให้เห็นอย่างเต็มที่ทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด 

“สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติและทำผลงานออกมาให้เร็วที่สุด เก่งเท่านั้นไม่พอแต่ต้องเร็วด้วยในยุคนี้”

ทั้งนี้นายเอกสิทธิ์ ยังฝากถึงพรรคฝ่ายค้าน ว่า ทุกคนมาเป็นตัวแทนของประชาชนในการทำงานบ้านเมืองแล้ว ก็ขอให้ร่วมมือกันผลักดัน ซึ่งทำหน้าที่ทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายตรวจสอบด้วยความเข้มแข็งทั้งคู่ ทำประโยชน์ให้กับประชาชนยึดมั่นประเทศชาติเป็นหลัก ซึ่งฝ่ายตรวจสอบเอง ก็ต้องทำงานเข้มแข็งเรื่องการตรวจสอบปัญหาทุจริตคอรัปชันเป็นอุปสรรคสำคัญของการเจริญเติบโต ของประเทศเรา พร้อมทั้งผลักดันกฎหมายต่างๆให้ผ่าน และเป็นหูเป็นตาแทนประชาชนในการตรวจสอบรัฐบาลด้วย

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงเรื่องที่รัฐบาลและฝ่ายค้านเห็นพ้องว่าควรเร่งแก้รัฐธรรมนูญแทนที่จะเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจนั้น ประธานสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย มองว่าควรจะทำควบคู่กันไปแต่ส่วนตัวเป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจมากกว่า  แน่นอนว่าการแก้รัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่สำคัญต่อประชาชนก็ต้องดำเนินการต่อไปควบคู่กับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยเฉพาะปัจจุบันเรื่องปากท้องเศรษฐกิจของพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรีบทำ 

ทั้งนี้ภาครัฐจะต้องหามาตรการออกมากระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นและระยะยาวแต่ในเมื่อรัฐบาลชุดนี้มีการให้สัญญาว่าจะอยู่ในตำแหน่ง 4 เดือน ก็จำเป็นต้องหามาตรการระยะสั้นออกมาก่อน เช่นมาตรการคนละครึ่ง ซึ่งได้ผลดีเพราะเคยใช้มาแล้วเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแต่ก็ยังไม่พอซึ่งควรมีส่วนที่ต้องเพิ่มเติมอีก แต่ก็รู้สึกเป็นห่วงว่าแค่ 4 เดือนจะทำได้ทันหรือไม่ 

“ฝากพี่น้องประชาชนให้กำลังใจรัฐบาลด้วย ขณะเดียวกันฝ่ายค้านก็ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเข้มแข็ง เชื่อว่าแบบนี้ประเทศชาติจะไปได้ ต้องให้โอกาสรัฐบาลได้ทำงานแสดงฝีมือก่อนว่าจะทำได้หรือไม่”นายเอกสิทธิ์ กล่าว