‘คนละครึ่ง’ กลุ่มยื่นภาษี 11 ล้านคน รับสิทธิพิเศษ รัฐช่วยจ่าย 60%
ปลัดคลังเผย ‘คนละครึ่ง’ รัฐบาลอนุทิน เพิ่มความน่าสนใจ มอบสิทธิพิเศษกลุ่มยื่นภาษี 11 ล้านคน รัฐช่วยจ่าย 60% ฝั่งประชาชน-บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ช่วย 50%
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้มีการหารือถึงแนวทางเดินหน้าโครงการคนละครึ่งเฟสใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยจากความเข้าใจนั้น
- ประชาชนกลุ่มที่ยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระบบ 11 ล้านคน จะได้รับสิทธิ รัฐช่วยจ่ายให้ 60% และจ่ายเอง 40% หรือ 60:40
- ประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับสิทธิ รัฐบาลช่วยจ่าย 50% และจ่ายเอง 50% หรือ 50:50
“แนวคิดของรัฐบาล คือ ผู้ที่อยู่ในระบบภาษี ยื่นแบบ 11 ล้านคน จะได้รับสิทธิพิเศษกว่าประชาชนทั่วไป เพราะถือเป็นผู้ที่อยู่ในระบบภาษี”
ส่วนจะมีการเพิ่มวงเงินในโครงการคนละครึ่ง หรือเพิ่มการใช้จ่ายต่อวัน จากเดิม 150 บาทต่อวันหรือไม่ นายลวรณ กล่าวว่า ส่วนนี้ยังเป็นรายละเอียด ที่ต้องหารือกันต่อไป เพื่อให้ได้ข้อสรุป อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า หลักเกณฑ์นั้นจะคล้ายของเดิมมากที่สุด 80-90% แล้วจะนำมาปรับปรุงให้มีความน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งยังอยู่ระหว่างออกแบบนโยบาย
ทั้งนี้ หากโครงการคนละครึ่งเริ่มใช้จ่ายตั้งแต่ต.ค.68 เป็นต้นไป งบประมาณที่จะนำมาใช้ จะเป็นงบประมาณปี 2569 จากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ กรอบวงเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท แต่หากโครงการขนาดใหญ่กว่านี้ ก็ต้องมีการเกลี่ยเงินจากงบกลางรายการอื่นมา
“คณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องมีการคุยเรื่องนี้อีกครั้งว่าจะใช้งบประมาณเท่าใด ขนาดโครงการใหญ่แค่ไหน ซึ่งโครงการขนาดใหญ่เป็นผลดีอยู่แล้ว แต่ต้องดูว่าเราจะแบ่งเงินไปใช้ตรงส่วนไหนบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องนโยบายที่ต้องถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการคนละครึ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการมาก่อนหน้านี้ กำหนดคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ ได้แก่
- ต้องมีสัญชาติไทย
- ต้องมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันลงทะเบียน
- ต้องมีบัตรประจำตัวประชาชน
- ต้องไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ส่วนการใช้จ่าย ใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” โดยผู้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งจะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลไม่เกินวันละ 150 บาท คนละครึ่งจะซื้อสินค้าที่มีมูลค่า 200 บาท รัฐจะดำเนินการจ่ายให้ครึ่งหนึ่ง คือ 100 บาท และผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งจะต้องจ่ายเองอีก 100 บาท
แต่หากผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งจะซื้อสินค้าที่มีมูลค่า 500 บาท รัฐจะดำเนินการจ่ายสูงสุดที่ 150 บาทเท่านั้น โดยอีก 350 บาทผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งต้องดำเนินการจ่ายเอง