KEY
POINTS
หลังรัฐบาลใหม่ ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีแนวคิดจะนำโครงการ “คนละครึ่ง” กลับมาใช้ใหม่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ปลุกกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีวงเงินอยู่ 2.5 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะเริ่มได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ เป็นต้นไป ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากภาคประชาชน และผู้ประกอบการเอกชน ที่เชื่อว่าจะช่วยให้ไตรมาส 4 กลับมาคึกคักขึ้นทันที
นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวแสดงความคิดเห็นกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หากโครงการคนละครึ่งเริ่มในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งเป็นไฮซีซันของการจับจ่าย จะถือเป็นปัจจัยบวกต่อกำลังซื้อผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและร้านค้าที่เข้าร่วมอีเวนต์ภายในศูนย์การค้า ซึ่งสามารถใช้สิทธิโครงการได้โดยตรง สิ่งนี้จะช่วยสร้างบรรยากาศการจับจ่ายให้คึกคักขึ้น มีผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจในภาพรวม
สำหรับข้อเสนอแนะที่มีต่อภาครัฐ คือ ควรสื่อสารเงื่อนไขโครงการอย่างชัดเจน และมีความต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนวางแผนการใช้จ่ายล่วงหน้าได้ และเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเตรียมกลยุทธ์รองรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ดีไตรมาส 4 ถือเป็นไฮซีซันของการจับจ่าย เดอะมอลล์กรุ๊ปได้เตรียมกลยุทธ์เพื่อเสริมกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น โดยเน้น 3 แกนหลัก คือ
1. ยกระดับแคมเปญปลายปีให้โดดเด่น ชัดเจน และเข้าใจง่าย สร้างแรงจูงใจและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้ทันที
2. ขยายอีเวนต์และประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่สร้างการมีส่วนร่วมและดึงดูดให้ผู้บริโภคเดินทางมาที่ศูนย์การค้าอย่างต่อเนื่อง
3. เสริมความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งแบรนด์และแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อขยายสิทธิประโยชน์และเข้าถึงลูกค้าได้อย่างกว้างขวางและมีประสิทธิภาพ
“ในฐานะภาคเอกชน เรามีความเชื่อมั่นว่า หากนโยบายเศรษฐกิจมีความชัดเจนและต่อเนื่อง จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นกำลังซื้อได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่เป็นไฮซีซันของการจับจ่าย เดอะมอลล์กรุ๊ปเองพร้อมที่จะปรับกลยุทธ์และเดินหน้าไปในทิศทางที่สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย”