"สามารถ"ชี้“คนละครึ่ง”ไม้เด็ดรัฐบาลอนุทิน ดันเศรษฐกิจฐานราก

07 ก.ย. 2568 | 07:35 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.ย. 2568 | 07:50 น.

“สามารถ”ชี้“รัฐบาลอนุทิน”ฟื้นโครงการ“คนละครึ่ง”ถือเป็นไม้เด็ด ปลุกพลังการจับจ่าย ตอบโจทย์ประชาชน–ร้านค้า แนะอัปเกรดเป็น “คนละครึ่ง Plus” วางแผนไม่เป็นภาระการคลัง

KEY

POINTS

  • ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ ชี้ว่าโครงการ “คนละครึ่ง” เป็นนโยบายไม้เด็ดของรัฐบาลอนุทิน ที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างรวดเร็ว
  • เหตุผลที่รัฐบาลนำกลับมาใช้ เพราะเป็นนโยบายที่ประชาชนเข้าใจง่าย คุ้นเคย และ เห็นผลทันทีต่อการจับจ่ายใช้สอย
  • ประชาชนและร้านค้าส่วนใหญ่ตอบรับโครงการในเชิงบวก แต่ฝ่ายนักวิชาการแสดงความกังวลเกี่ยวกับภาระด้านงบประมาณ
  • มีข้อเสนอให้ต่อยอดโครงการโดยพัฒนาระบบให้ดีขึ้น เช่น ทำให้แอปใช้ง่ายขึ้น และนำ AI มาช่วยตรวจจับการทุจริต

ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แสดงความเห็นถึงกระแสโครงการคนละครึ่ง ในหัวข้อ “คนละครึ่ง” รีเทิร์น!” ซึ่งถูกยกขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งโดยรัฐบาลใหม่ นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ว่า นโยบาย Quick Win ที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เตรียมปลุกพลังการใช้จ่ายของคนไทย

1. ทำไมคนยังพูดถึง “คนละครึ่ง”?

หลายคนคงจำได้ดี โครงการ “คนละครึ่ง” เคยช่วยให้เราซื้อของแล้ว จ่ายเงินเพียงครึ่งเดียว ที่เหลือรัฐช่วยออกให้ ช่วงโควิดโครงการนี้กลายเป็นพระเอกของเงินในกระเป๋า ทั้งร้านค้ารายย่อยก็ขายดีขึ้น คนซื้อก็มีกำลังจับจ่าย

ตอนนี้มีข่าวออกมาว่า รัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กำลังคิดจะปลุกโครงการนี้กลับมาอีกครั้ง ให้เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ “ทันใจ”

2. ทำไมรัฐบาล “อนุทิน” จึงเลือกหยิบขึ้นมาใหม่?

เหตุผลง่ายๆ คือ เป็นนโยบายที่คนเข้าใจง่ายที่สุด ไม่ต้องอธิบายเยอะ ประชาชนใช้เป็นอยู่แล้ว และเห็นผลเร็วกับเศรษฐกิจฐานราก

พูดให้ชัด… ถ้ารัฐอยากโชว์ผลงานทันที “คนละครึ่ง” คือ “ไม้เด็ด” ที่หยิบมาแล้วกระแสตอบรับดีแน่นอน

3. คนทั่วไปคิดอย่างไร?

ฝั่งประชาชน... ส่วนใหญ่ต้อนรับ เพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายจริง บางคนแซวว่า “ขอเต็มร้อยได้ไหม ไม่เอาครึ่ง!”

ฝั่งแม่ค้า... ชอบมากเพราะทำให้ร้านค้าคึกคัก ขายของออกได้ทุกวัน
ฝั่งนักวิชาการ... เป็นห่วงงบประมาณ ถ้าควบคุมไม่ดีอาจเป็นภาระการคลัง

4. ถ้าอยากให้ปัง ต้องทำยังไง?

ต่อยอดเป็นโครงการ “คนละครึ่ง Plus” โดยอัปเกรดจากโครงการ “คนละครึ่งเดิม” เช่น

1. แอปเป๋าตังเวอร์ชันใหม่ที่ง่ายกว่าเดิม โหลดไว ใช้ง่ายสำหรับคนทุกวัย

2. ใช้ AI ตรวจจับการโกง เช่น ร้านค้าขึ้นราคาผิดปกติ หรือพฤติกรรมสแกนซ้ำๆ

3. ทำโครงการให้ยืดหยุ่น ไม่ใช่แจกแล้วหายไป ต้องมีแผนต่อเนื่อง

5. บทสรุป

“คนละครึ่ง” ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นนโยบายที่ยังตอบโจทย์ เพราะโดนใจคนไทยคือ อยากใช้จ่าย แต่ก็อยากประหยัด

หากรัฐบาลเดินหน้าอย่างจริงจัง มาตรการนี้อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมามีสีสันอีกครั้ง

ถ้าโครงการ “คนละครึ่ง” กลับมาอีกครั้ง คุณอยากให้ปรับตรงไหนบ้าง?