ส.อ.ท. ชี้ ‘รัฐบาลอนุทิน 4 เดือน’ เป็นโอกาสฟื้นความเชื่อมั่น

05 ก.ย. 2568 | 11:18 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ก.ย. 2568 | 11:18 น.

ส.อ.ท. ชี้ไทยได้อนุทินเป็นนายกฯสร้างควมชัดเจนด้านผู้นำรัฐบาล ระบุวาระทำงาน 4 เดือนเป็นโอกาสฟื้นความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและธุรกิจ

KEY

POINTS

  • ส.อ.ท. มองว่าการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจ 4 เดือนช่วยสร้างความชัดเจนทางการเมือง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนและภาคธุรกิจ
  • คาดหวังให้รัฐบาลใหม่แต่งตั้งทีมเศรษฐกิจที่มีความสามารถและกล้าตัดสินใจ เพื่อส่งสัญญาณบวกและสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน
  • เสนอให้รัฐบาลเร่งดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เช่น บรรเทาภาระค่าครองชีพและต้นทุนพลังงาน ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs และเร่งรัดการเจรจาการค้า

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แสดงความเห็นต่อสถานการณ์ปัจจุบัน ภายหลังการโหวตเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลเฉพาะกิจ โดยมีวาระการทำงาน 4 เดือนว่า ทำให้ประเทศไทยมีความชัดเจนด้านผู้นำรัฐบาล ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนและภาคธุรกิจ หลังจากที่การเมืองมีความไม่แน่นอนมาระยะหนึ่ง 

ทั้งนี้ หวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถ และกล้าตัดสินใจ โดยเฉพาะในทีมเศรษฐกิจหลัก เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม เพราะสิ่งนี้จะเป็นสัญญาณสำคัญที่ช่วยฟื้นความเชื่อมั่นให้ทั้งนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ แม้จะเป็นรัฐบาลระยะสั้น ก็ควรรีบเร่งทำงานอย่างเต็มที่ทันที

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าระยะเวลา 4 เดือนนับว่าสั้นมาก สำหรับการขับเคลื่อนการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการปรับระบบภาษี การพัฒนาทักษะแรงงาน หรือการวางยุทธศาสตร์ด้านพลังงาน ซึ่งต้องใช้ความต่อเนื่องหลายปีจึงเห็นผลชัดเจน ในระยะเวลาจำกัดนี้ รัฐบาลจึงควรเน้นมาตรการเฉพาะหน้าเพื่อบรรเทาปัญหาเร่งด่วนและสร้างบรรยากาศทางเศรษฐกิจที่ดี

สำหรับนโยบายเร่งด่วนที่ต้องการเห็นภายใน 4 เดือน ส.อ.ท. เสนอว่ารัฐบาลใหม่ควรเร่งดำเนินการ ประกอบด้วย

  • บรรเทาค่าครองชีพและต้นทุนพลังงาน ที่ส่งผลโดยตรงต่อประชาชนและผู้ประกอบการ
  • ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ผ่านการเพิ่มสภาพคล่อง ลดภาษี และมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้เสีย

ส.อ.ท. ชี้ ‘รัฐบาลอนุทิน 4 เดือน’ เป็นโอกาสฟื้นความเชื่อมั่น

  • เร่งรัดการเจรจาการค้าต่างประเทศ โดยเฉพาะกับสหรัฐฯ และตลาดสำคัญ เพื่อไม่ให้การเจรจาสะดุดจากการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง
  • ปรับปรุงระบบธุรกิจและภาษี ให้ทันสมัย ลดความซ้ำซ้อน และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุน

นอกจากนี้ หากรัฐบาลไม่สามารถดำเนินมาตรการได้อย่างชัดเจน การเจรจาการค้าระหว่างประเทศอาจหยุดชะงัก และการลงทุนใหม่ๆ อาจล่าช้าออกไป ซึ่งจะเป็นความท้าทายสำคัญของรัฐบาลเฉพาะกิจในช่วงเวลาเพียง 4 เดือนนี้

อย่างไรก็ดี แม้รัฐบาลจะมีเวลาจำกัด แต่ก็เป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะสร้างแรงกระตุ้นต่อเศรษฐกิจ และสร้างบรรยากาศเชิงบวกให้รัฐบาลถาวรในอนาคตมาสานต่อ ภาคเอกชนพร้อมสนับสนุนและร่วมมือกับรัฐบาลอย่างเต็มที่ เพื่อให้มาตรการเหล่านี้เกิดผลจริง

“ส.อ.ท. ขอแสดงความยินดีกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 และยินดีที่ประเทศไทยมีความชัดเจนด้านผู้นำรัฐบาล”