คปภ. ผ่อนเกณฑ์จ่ายเบี้ย-ต่ออายุกรมธรรม์ ช่วยผู้ประสบภัย “พายุ-ชายแดน”

16 ส.ค. 2568 | 08:24 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ส.ค. 2568 | 08:48 น.

คปภ.คลอดมาตรการชุดใหญ่ ผ่อนปรนเงื่อนไขกรมธรรม์ เยียวยาผู้เอาประกันภัย "พายุ-ชายแดนไทย-กัมพูชา" ขยายเวลาจ่ายเบี้ยสูงสุด 180 วัน งดตรวจสุขภาพ-ยกเว้นดอกเบี้ยต่ออายุกรมธรรม์ มีผลถึงสิ้นปี 2568

สถานการณ์จากอิทธิพลของพายุที่สร้างความเสียหายต่อหลายพื้นที่ทั่วประเทศ และเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทยและกัมพูชา ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากได้รับความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ และทรัพย์สิน รวมถึงกระทบต่อการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพในวงกว้าง

นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) เปิดเผยว่า  คปภ.ได้ออกมาตรการเพื่อให้ความคุ้มครองอย่างต่อเนื่องและบรรเทาภาระทางการเงินแก่ผู้เอาประกันภัยที่อยู่ในเขตพื้นที่ประสบภัยดังกล่าว

โดยได้ออกคำสั่งนายทะเบียนรวม 6 ฉบับ เพื่อให้บริษัทประกันภัยผ่อนผันเงื่อนไขกรมธรรม์เป็นการชั่วคราวกรมธรรม์ ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม ถึง 31 ธันวาคม 2568  สำหรับผู้ประสบภัยพายุ และกรมธรรม์ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม ถึง 31 ธันวาคม 2568 สำหรับผู้ประสบภัยชายแดน 

 

ประกันชีวิต:

  • ขยายเวลาชำระเบี้ย: ให้ขยายระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันภัยออกไปอีก 60 วัน นับจากวันครบกำหนดเดิม
  • ต่ออายุกรมธรรม์: ผ่อนผันการตรวจสุขภาพ และ "ยกเว้นดอกเบี้ย" สำหรับการต่ออายุ หรือการขอกลับคืนสู่สถานะเดิมของกรมธรรม์

ประกันวินาศภัย (ประกันสุขภาพ-โรคร้ายแรง)

  • ขยายเวลาชำระเบี้ย: ขยายเวลาการเก็บเบี้ยประกันภัยออกไปได้ไม่เกิน 90 วัน
  • ต่ออายุกรมธรรม์: ผ่อนผัน "ไม่ต้องตรวจสุขภาพ" ในการต่ออายุกรมธรรม์ประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง โดยให้ถือเป็นความคุ้มครองต่อเนื่อง และไม่นำเงื่อนไขเรื่องสภาพที่เป็นมาก่อน (Pre-existing Condition) มาเริ่มนับใหม่

 

 

ประกันภัยรถยนต์ (ยกเว้นรถยนต์กลุ่ม 1 และ 2)

  • ขยายเวลาชำระเบี้ย: ถือเป็นมาตรการที่ผ่อนปรนสูงสุด โดยบริษัทสามารถขยายเวลาเก็บเบี้ยประกันภัยได้นานถึง 180 วัน นับจากวันที่กรมธรรม์เริ่มมีผลคุ้มครอง

นายชูฉัตรกล่าวว่า มาตรการสำหรับพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นการขานรับนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลังโดยตรง ซึ่งนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อเสริมสภาพคล่องและบรรเทาภาระของประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

“มาตรการทั้งหมดนี้สะท้อนความมุ่งมั่นของ คปภ. ในการดูแลสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัยให้ได้รับความคุ้มครองอย่างไม่สะดุด แม้ในภาวะวิกฤต"

 นายชูฉัตรกล่าวทิ้งท้ายว่า หลังจากนี้จะมีการหารือร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทยและสมาคมประกันวินาศภัยไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินสถานการณ์และออกมาตรการเพิ่มเติมให้ทันท่วงที ขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวติดต่อบริษัทประกันของท่านเพื่อรับสิทธิตามมาตรการได้ทันที