โวย! บริษัทประกันดัง บีบค่าเบี้ยเพิ่มหรือต้องจ่ายร่วม หากไม่ยอมยกเลิกสัญญาทันที

24 ก.ค. 2568 | 04:01 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ก.ค. 2568 | 04:24 น.

ผู้เอาประกันภัยรวมกลุ่มยื่นหนังสือ ร้องตรวจสอบความโปร่งใส บริษัทประกันภัยหลังบีบขึ้นค่าเบี้ย 1.5-2.5 เท่า หรือยอมจ่าย Co-payment 20% ทุกโรคทุกบิล หากไม่ยอมรับจะยุติความคุ้มครองทันที

หลังจากที่ผู้เอาประกันภัยจำนวนมากได้รับเอกสารแจ้งต่อสัญญาจากบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่ง พร้อมระบุว่า จากกรณีที่มีการเบิกค่าสินไหม ทำให้วงเงินความคุ้มครองสูง ดังนั้นเมื่อต้องต่อสัญญาในปีถัดไป จึงต้องมีการปรับขึ้นค่าเบี้ยประกันภัย โดยมี 3 ทางเลือก ได้แก่ การจ่ายเบี้ยประกันเพิ่มขึ้น 1.5-2.5 เท่า หรือยอมจ่าย Co-payment 20% ของทุกโรคทุกบิลค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้น หรือหากไม่ดำเนินการตามข้อใด ข้อหนึ่ง บริษัทจะยุติความคุ้มครองทันที ส่งผลกระทบต่อผู้เอาประกันจำนวนมาก  

นายภูมิรัศมิ์ เกษมสมบูรณ์ชัย ผู้แทนกลุ่มผู้เอาประกันภัยแบบ IHealthy รวมถึงแบบอื่น ๆ ของบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่ง ได้ยื่นหนังสือให้กับนายเอกพร รักความสุข สส.พรรคเพื่อไทย เพื่อขอให้ตรวจสอบความโปร่งใสและความเป็นธรรม กรณีที่คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) อนุมัติให้บริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่ง

เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขกรมธรรม์สุขภาพแบบ iHealthy และแบบอื่น ๆ ของผู้เอาประกันรายเดิม โดยไม่แจ้งข้อมูลล่วงหน้าแก่ผู้เอาประกัน และไม่ขอความยินยอมอย่างชัดเจน การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีลักษณะเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรมและขัดกับเจตนารมณ์แห่งกฎหมายประกันชีวิต โดยเฉพาะกรณีที่ผู้เอาประกันภัยชำระเบี้ยสม่ำเสมอมาเป็นเวลากว่า 5 ปี และไม่ได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขเดิมที่เคยตกลงกันไว้

โวย! บริษัทประกันดัง บีบค่าเบี้ยเพิ่มหรือต้องจ่ายร่วม หากไม่ยอมยกเลิกสัญญาทันที

โดยมีเสนอข้อเรียกร้อง ดังนี้

1. ขอให้ตรวจสอบความชอบธรรม และอำนาจในการที่ คปภ. อนุมัติการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสาระสำคัญในกรมธรรม์โดยไม่มีความยินยอมจากผู้เอาประกัน

2. ขอให้สั่งการให้ คปภ. เปิดเผยคำขออนุมัติของบริษัท และคำสั่งอนุมัติจากนายทะเบียนอย่างเป็นทางการ

3. ยืนยันหลักการว่า กรมธรรม์สุขภาพแบบ iHealthy และแบบอื่น ๆ ที่ทำก่อนวันที่ 28 มีนาคม 2568 และต่ออายุอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรตกอยู่ภายใต้ Co-payment หรือเบี้ยประกันที่เพิ่มขึ้นโดยไม่มีเหตุอันสมควร

4. ตรวจสอบแนวทางปฏิบัติของ คปภ. ในทุกหน่วยงาน ว่ามีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่

5. พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระ หรือคณะ กมธ.กลางเพื่อตรวจสอบกรณีนี้โดยเร่งด่วน และคืนสิทธิตามสัญญาเดิมให้แก่ผู้เอาประกัน